รีวิว Point Break (2015) ปล้นข้ามโคตร

รีวิว Point Break (2015) ปล้นข้ามโคตร

P001

จำได้ว่าตอนดู Point Break ภาคต้นฉบับเป็นหนแรก ผมรู้สึกโอเคกับหนัง แต่ยังไม่ถึงกับมากมายอะไร ส่วนหนึ่งอาจเพราะดูตอนยังเด็กน่ะครับ อารมณ์ ความเข้าใจ และอะไรหลายๆ อย่างมันเลยยังไม่ถึงระดับที่จะอินไปกับหนังได้

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

ครั้นมาดูอีกทีตอนโตนี่แหละ ถึงจะเริ่มชอบหนังมากขึ้น สนุกกับหนังมากขึ้น และอินไปกับปมมิตรภาพ รวมถึงเรื่องอุดมการณ์ที่แตกต่างของคนเรามากขึ้น

แต่สำหรับ Point Break เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ผมมั่นใจว่าผมคงไม่รู้สึกชอบมากขึ้นในอนาคตครับ คือดูแล้วรู้สึกยังไงก็คงรู้สึกยังงั้นนั่นแหละ

พูดแบบไม่อ้อมค้อม ถ้าดูเอาภาพสวยล่ะได้เลยนะครับ เพราะหนังมีวิวงามๆ ทิวทัศน์เทพๆ มาเสิร์ฟคนดูตลอด ไม่ว่าจะเกลียวคลื่นสวยๆ, ทิวเขางามๆ, ป่ากว้างๆ, ผาชันๆ ฯลฯ ยอมรับเลยครับว่าถ้าดูเอาภาพอะไรพวกนี้ถือว่าคุ้มเอาเรื่องอยู่

P002
แต่ถ้าพูดในแง่ของความสนุกแล้ว ถือว่าหนังไม่มีอะไรพิเศษ โดยพล็อตแล้วก็เป็นหนังตำรวจแทรกตัวไปจับผู้ร้าย ซึ่งพระเอกของเราก็คือจอห์นนี่ (Luke Bracey) เอฟบีไอหนุ่มที่แทรกตัวเข้าไปในกลุ่มโจรท้านรกซึ่งนำโดย โบดี้ (Édgar Ramírez) ที่เป็นนักกีฬา Extreme ท้าตาย

โดยตอนแรกจอห์นนี่ก็หมายจะจับกุมก๊กโจรกลุ่มนี้ แต่พอได้ใกล้ชิดก็เกิดมิตรภาพ จนส่งผลให้ทำใจลำบากในเวลาต่อมา เมื่อคำว่ามิตรกับกฎหมายมันดันต้องสวนทางกัน

ผมว่าบทอ่อนครับ คืออย่างที่บอกน่ะว่าภาพทิวทัศน์งามๆ เทพๆ น่ะจุใจดี แต่ในแง่บทแล้วไม่มีอะไรให้จดจำ ซึ่งจริงๆ ถ้าบทจะเขียนง่ายๆ แบบเท่าที่ผมเล่าน่ะก็พอเข้าใจนะ เพราะแม้บทจะง่าย แต่หากหนังเสริมความแน่นด้วยมิติตัวละคร หรือฉากแอ็กชันลุ้นๆ ผสมลงไป ตามด้วยการแทรกประเด็นสาระลงไปให้กลมกล่อม แบบนั้นต่อให้บทโล่งแค่ไหน หนังก็จะยังคงโอเคอยู่

แต่ทีนี้บทไม่แน่น มิติตัวละครก็ไม่มาก คือเหมือนหนังจะเน้นพาเราไป Extreme อย่างเดียวเลยน่ะครับ พวกภาพสวยๆ น่ะเน้นมาก และหนังดูใส่ใจรายละเอียดฉากพวกนี้มาก ซึ่งผมก็เข้าใจนะ เพราะมันคือฉากขายน่ะ ถ่ายทั้งทีก็ต้องถ่ายให้สวย ถ่ายให้สมจริงและได้อารมณ์ แต่ระหว่างดูก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าพี่ใส่ใจบทกับปมของตัวละครด้วยเนี่ย มันคงจะแจ๋วเลย

P003
ระหว่างดูนี่ภาพของเวอร์ชั่นเก่าผุดขึ้นมาในหัวเป็นพักๆ สิ่งแรกที่รู้สึกเลยก็คือ โบดี้ของใหม่ดูไม่เท่ห์ ไม่แกรนด์ และไม่เหนือ สู้โบดี้รุ่น Patrick Swayze ไม่ได้เลยครับ เพราะโบดี้ของเก่าน่ะดูเป็นเสรีชน แต่ก็มีหลักการ มีอุดมการณ์ แม้จะเป็นอุดมการณ์ที่ขัดกฎหมายมากๆ ก็เถอะ แต่พี่แกดูมีจุดยืน อินดี้แบบหล่อๆ ในขณะที่โบดี้คนใหม่นี่บารมีไม่ให้เลยจริงๆ จุดยืนก็ไม่ชัด อุดมการณ์ก็ไม่มีทิศทางแบบชัดจัดๆ เหมือนของเก่า

ส่วนจอห์นนี่ ยูทาห์ของใหม่นี่ก็โอเคครับ Bracey ถือว่าแสดงได้ดี หลายมุมได้อารมณ์คล้าย Keanu Reeves อยู่เหมือนกัน เพียงแต่พอดีว่า “โบดี้” น่ะไม่เจ๋งพอ ความเด่นของจอห์นนี่คนใหม่เลยไม่มาก

อันนี้ทำให้คิดเลยนะครับว่าพี่ Patrick Swayze เขาเก่งจริงๆ เพราะผมว่าการแสดงของ Reeves ผมว่ากลางๆ แต่เพราะได้ Swayze ประกบ ความเด่นมันเลยเสริมกัน (ยังจำฉาก Reeves ยิงขึ้นฟ้าได้อยู่เลย อารมณ์มันได้ประมาณนั้นจริงๆ น่ะแหละ)

เฮ่อ ทำเอาคิดถึง Swayze ขึ้นมาในบัดดล…

ครับ ด้านพลังดารานี่ไม่มากเท่าไร Delroy Lindo ที่มารับบทสมทบก็ไม่ได้ทำอะไรมากนัก (แม้ป๋าแกจะเล่นได้เวิร์กเหมือนเดิมก็เถอะ) ส่วนนางเอกอย่าง Teresa Palmer ก็สวยมีเสน่ห์เหมือนเดิม แต่บทไม่เด่นก็เลยทำอะไรไม่ได้อีกเหมือนกัน

สรุปว่าภาพสวยครับ หากใครชอบฉากธรรมชาติเจ๋งๆ หรือชอบกีฬาผาดโผนล่ะก็ เรื่องนี้ก็น่าลองครับ แต่ในแง่บทแล้วธรรมดามาก ผมว่าอารมณ์ “ตำรวจเป็นมิตรกับโจร” นี่ ผมว่า The Fast and The Furious ภาคแรกยังให้อารมณ์นั้นได้เจ๋งกว่าครับ
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
P005

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิว Circle (2015)

2122 0

Circle คือหนังไซไฟระทึกขวัญที่ได้รับการพูดถึงไม่น้อยครับ ดูแล้วก็ชวนให้นึกถึง Cube นะ เพราะจับเอาเรื่องราวในที่ปิดตายมาเป็นโจทย์ ตามด้วยกลุ่มตัวละครที่ต้องหาทางเอาตัวรอด เพียงแต่ะความเด็ดก็อาจยังไม่มากเท่า Cube เท่านั้นเอง ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว All Things Valentine (2016)

1910 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด เท่าที่ทราบมาคอหนังที่ติดตามหนังรักของ Hallmark จะเห็นคล้ายๆ กันครับ ว่าหนังรักช่วงวาเลนไทน์ปีนี้ของ Hallmark มาในโทนที่หวานแหววน้อยลง ความโรแมนติกก็ติดดินขึ้น และเน้นที่โลกแห่งความจริง มากกว่าจะอุดมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความฝัน ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับคนส่วนใหญ่นั่นแหละครับ เอเวอรี่ (Sarah Rafferty) คือบล็อกเกอร์สาวแนวศิราณีที่มีความทรงจำแย่ๆ เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ และยิ่งเธอมาช้ำรักในวันแห่งความรัก ความทรมานใจก็ยิ่งมาก แล้ววันหนึ่งเธอก็ให้คำแนะนำกับแม็คเคนนา (Kimberly Sustad) สาวเสิร์ฟที่กำลังไม่แน่ใจว่าคนที่เธอคบอยู่ตอนนี้คือคนที่ใช่หรือเปล่า และเธอก็แนะนำไปว่า หากเขาไม่ใช่สำหรับเธอ ก็ควรจะเดินหน้าต่อไป หาคนใหม่ที่ใช่กว่า แม็คเคนนาเลยบอกเลิกกับแฟนหนุ่ม โดยที่แฟนหนุ่มคนนั้นก็รู้ครับว่าเธอบอกเลิกกับเขาเพราะบล็อกเกอร์ศิราณีคนนั้นนั่นเอง เขาเลยคอมเมนต์แรงๆ ลงในบล็อกของเอเวอรี่ (แต่ไม่ได้ใช้ชื่อจริงลงท้าย) ซึ่งก็แน่ล่ะครับ เอเวอรี่โกรธมาก เลยมีการโต้ตอบออนไลน์ระหว่าง 2

รีวิว Curve (2015)

2778 1

โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าหนังเรื่อง Curve ดูน่าสนใจไม่ไก่กา เพราะหนังนำแสดงโดยสาวสวยนักเต้นเท้าไฟ  (Footloose และ Safe Haven) ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด นอกจากนี้หนังยังกำกับโดย Iain Softley ที่ทำหนังได้เข้าท่าไม่ว่าจะดรา ม่า, สยอง หรือแฟนตาซี (ผลงานที่ผ่านมาก็เช่น The Wings of the Dove, K-PAX, The Skeleton Key และ Inkheart) ดังนั้นก็แอบคิดครับว่าหนังมันน่าจะโอเคอยู่ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด