ว่าตามจริงนี่เป็นการ์ตูน Batman ที่ผมรอดูตั้งแต่มีข่าวว่าจะสร้างแล้วครับ เอาแค่ชื่อก็น่าดูแล้ว และพล็อตยังว่าด้วยเรื่องของโจ๊กเกอร์ในมุมที่เรายังไม่เคยรู้อีกต่างหาก

ครั้นพอดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่เลว แต่ก็ยังไม่ถึงกับเด็ดขาดดังคาด ซึ่งก็ต้องมาว่ากันเป็นจุดๆ น่ะนะครับ จุดแรกเลยคือการ์ตูนความยาว 76 นาทีเรื่องนี้ ไม่ได้มีแต่เรื่องของโจ๊กเกอร์นะครับ อันที่จริงหนังแทบจะไม่พูดถึงพี่โจ๊กเลยจนกระทั่งเลยนาทีที่ 30 ไป

ช่วงต้นเป็นเนื้อเรื่องที่มีตัวหลักคือบาร์บาร่า กอร์ดอน หรือ แบทเกิร์ล กับการปราบอธรรมและเจอศัตรูที่มีเป้าหมายคือตัวเธอ ซึ่งช่วงที่ว่านี่ก็ยาวประมาณ 30 นาทีแรกนั่นแหละครับ

และช่วงต้นนี้เอง พล็อตก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร การเดินเรื่องก็ไม่ถึงกับเข้มข้น ทั้งที่จริงๆ หากเล่าดีๆ มันก็พอจะเข้มข้นอยู่ และสามารถสำรวจคาแรคเตอร์แบทเกิร์ลได้ไม่น้อย แต่การบอกเล่าเท่าที่เห็นก็ไม่มีอะไรพิเศษ ออกแนวเรื่อยๆ น่ะครับ

จริงๆ พอดูจนจบแล้วก็เข้าใจนะ ว่าการใส่บทของแบทเกิร์ลมานั้นถือว่าสมเหตุผล แต่อย่างที่บอกว่าหนังไม่ได้เล่าให้เราอินหรือจดจำคาแรคเตอร์แบทเกิร์ลได้แบบเต็มๆ มันเลยเป็น 30 นาทีที่ออกจะเรื่อยไปหน่อย

ยิ่งถ้าใครคิดว่าจะได้เห็นเรื่องของโจ๊กเกอร์แบบเต็มๆ ก็คงไม่โดนใจนักน่ะครับ เพราะกว่าพี่โจ๊กจะออกโรงก็ไปเข้าไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ถ้านับเวลาดีๆ ก็พบว่าพี่แกมีเวลาขึ้นจอแค่ 40 นาทีเท่านั้น

ครั้นพอถึงเรื่องราวส่วนของโจ๊กเกอร์ จริงๆ ก็มีประเด็นที่น่าสนใจนะครับ แต่ปัญหาก็คล้ายกับตอนต้น คือการเล่ามันยังไม่เข้าเนื้อ มันยังไม่ถึงอารมณ์ ทั้งที่จริงๆ แล้วเรื่องที่มาของโจ๊กเกอร์มันก็มีมุมน่าสนใจไม่ใช่น้อย เรียกว่าอาจจะทำให้บางคนสงสารพี่โจ๊กขึ้นมาเลยก็ได้

แต่เพราะการบอกเล่าที่เรื่อยๆ ไม่ค่อยมีการขยี้ปมหรือเน้นอารมณ์ เลยทำให้พลังยังไม่มากเท่าไร ยังดีครับที่เสียงพากย์โจ๊กเกอร์ของ Mark Hamill ยังไว้ใจได้ (ฉบับพากย์ไทยก็พากย์ดีครับ พากย์โดยคุณพีรศักดิ์ เกษร อีกหนึ่งนักพากย์ที่ผมชื่นชอบ ท่านเคยพากย์เป็น “ปิง” พ่อเลี้ยงของโป ใน Kung Fu Panda ด้วยน่ะครับ)

ในเรื่องนี้พี่แบทมีบทไม่มากครับ มีเท่าที่จำเป็น แต่ก็เสียดายล่ะครับที่จริงๆ การเล่าเรื่องในส่วนของโจ๊กเกอร์น่าจะมีอะไรมากกว่านี้ น่าจะสะท้อนอะไรสักอย่างให้เราสะเทือนได้มากกว่านี้ (เพราะนี่ถือเป็นไม่กี่ครั้งที่เราจะได้เห็นโจ๊กเกอร์ในมุม “มนุษย์”)

ตอนจบก็ไม่เลวครับ แต่ด้วยความที่ทั้งเรื่องยังไม่แน่น มันเลยยังไม่พีคสักเท่าไร แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้แย่นะครับ จริงๆ ก็ถือว่าดูได้ตามมาตรฐานการ์ตูน Batman นั่นแหละ เพียงแต่ความกลมกล่อมและเข้มข้นมันไม่เยอะเท่าไรเท่านั้นแหละ

ถ้าลองมาระลึกดูแล้ว ภาพยนตร์การ์ตูน Batman ตอนที่ผมชอบและคิดว่าเด็ดสุดคือ The Dark Knight Returns ทั้ง 2 ภาค เพราะทำออกมาได้เข้มข้น น่าติดตาม ยิ่งบทสรุประหว่างพี่แบทกับเฮียโจ๊กนี่จะว่าไปก็สะใจไม่ใช่น้อย

สรุปว่าผลออกมาไม่เท่ากับที่หวังไว้ครับ แต่ถ้าใครเป็นแฟนการ์ตูน Batman ก็ตามไปดูได้ครับ
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน