ถ้าพูดถึงผู้ชายที่สามารถเล่าเรื่องรักหวานปนน้ำเน่าได้เข้าท่าที่สุดล่ะก็ ชื่อ Nicholas Sparks จะเด้งขึ้นมาในหัวผมทันที

The Best of Me เป็นหนังเรื่องที่ 9 ที่สร้างจากนิยายของ Sparks คราวนี้เป็นเรื่องของดอว์สัน (James Marsden) และอแมนด้า (Michelle Monaghan) หนุ่มสาวที่เคยรักกันปานจะกลืนสมัยวัยรุ่น แต่พอมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ก็เลยทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกันไป

ทีนี้พวกเขาได้รับการติดต่อจากทนายความของทัค (Gerald McRaney) ชายชรารักสันโดษที่รู้ดีว่า 2 คนนี้รักกันขนาดไหน โดยทัคได้ยกบ้านหลังน้อยที่ดอว์สันและอแมนด้าเคยปลูกต้นรักกันให้ทั้งคู่ครอบครอง แล้วนั่นล่ะครับคือจุดเริ่มที่ทำให้ถ่านไฟเก่าคุขึ้นมาอีกครั้ง

หนังเล่าแบบตัดสลับระหว่างเหตุการณ์ยุคปัจจุบันกับเหตุสมัยพวกเขารักกันใหม่ๆ (โดยได้ Luke Bracey และ Liana Liberato มารับบทดอว์สันและอแมนด้าในวัยรุ่น) ซึ่งตัวหนังเองก็ดูเพลินไม่น้อยครับ จุดที่เสริมพลังให้หนังคือการแสดงของ Bracey และ Liberato ใช่ครับ ดาราหน้าใหม่นี่แหละ แต่แสดงได้น่ารัก ดูแล้วเชื่อว่าพวกเขารักกันจริงๆ

อย่าง Bracey นี่ก็ดูหล่อแต่ห้วช้านิดๆ ขาดความมั่นใจหน่อยๆ (เนื่องมาจากปัญหาครอบครัว) แต่พอถึงเวลาสบตาคนรัก แววตาพี่แกก็สื่ออารมณ์ได้ดี

แต่คนที่อยากยกนิ้วให้เลยคือ Liberato ครับ น่ารักมาก แสดงได้มีชีวิตชีวาสุดๆ ซึ่งก็ต้องบอกก่อนล่ะครับว่าในแง่การแสดงแล้วพวกเขาอาจไม่ถึงกับยอดเยี่ยมตามหลักเกณฑ์ดาราคุณภาพ แต่ผมชอบเพราะพวกเขาเหมาะกับบท แล้วก็ถ่ายทอดตัวตนออกมาได้กำลังดี ดูแล้วอินอยากให้พวกเขาได้ครองรักกัน

ส่วน Marsden กับ Monaghan ก็ดูไม่เลวครับ เพียงแต่เคมีระหว่างกันอาจไม่แรงเท่าคู่วัยรุ่น อีกคนที่น่าจดจำคือ McRaney แสดงเป็นเฒ่าทัคได้กำลังเหมาะ คือมานิ่งๆ ไม่แสดงออกอะไรเยอะ แต่มีรัศมีความอารีแผ่ซ่านออกมาเรื่อยๆ

และอีกรายที่เล่นได้ร้ายจนน่าฆาตกรรม คือ Sean Bridgers ในบทพ่อของดอว์สัน รายนี้ทำหน้านิ่งๆ เหมือนกันครับ แต่น่ากระทืบเหลือกำลังลาก ดูเป็นพ่ออันธพาลที่น่าหมั่นไส้จริงๆ

จริงๆ แล้วบทของดอว์สันนั้นจะเป็นของ Paul Walker ครับ แต่น่าเสียดายที่เขาจากไปก่อน อันนี้แอบคิดครับว่าถ้า Walker มาแสดงน่าจะออกรสไม่น้อย เพราะจริงๆ บทดอว์สันตอนโตนี่ควรดูทรนง กร้านโลก แบกโลก (แต่อยากจะหยุดแบกซะที) ซึ่งถ้าเป็นพี่ Paul นี่น่าจะเล่นได้สบายๆ… ก็ได้แต่เสียดายล่ะครับ เพราะไม่ค่อยได้เห็นพี่ Paul แกแสดงหนังรักเท่าไร อยากรู้จริงๆ ว่าถ้าแกเล่นแล้วจะเป็นเช่นไร

ครับ ด้านนักแสดงก็ถือว่าน่าพอใจ ส่วนเนื้อเรื่องนั้นก็ออกจะลงสูตรน้ำเน่าอยู่บ้าง แต่ก็อย่างที่บอกครับว่า Sparks แกผสมรสออกมาให้พอเหมาะได้ ไม่เน่าเกิน และยังได้การกำกับละเมียดเบาๆ ของ Michael Hoffman ที่แม้เรื่องนี้จะไม่กลมกล่อมโคตรๆ เท่า One Fine Day แต่ก็ถือว่าน่าพอใจแล้วล่ะครับสำหรับหนังรักแบบนี้

สิ่งที่ขับเน้นอารมณ์หนังให้กลมกล่อมมากขึ้นคือบรรยากาศเมืองเงียบๆ น่าอยู่ และป่าโปร่งสวยๆ ลำน้ำงามๆ ซึ่งหนังไปถ่ายกันที่มลรัฐหลุยส์เซียนาครับ และดนตรีของ Aaron Zigman ก็มาในโทนเบาๆ ให้อารมณ์ละเมียดไม่เลว

โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้ก็น่าพอใจอยู่ครับ อาจไม่ยอดเยี่ยมเท่า The Notebook หรือ A Walk to Remember แต่ก็น่าพอใจกว่า Nights in Rodanthe อยู่พอประมาณครับ

อยากดูหนังรักสักเรื่อง ลองหยิบเรื่องนี้ชมดูนะครับ
คะแนนความชอบ 7/10 ครับ
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน