รีวิว Mother’s Day (2016) แม่ก็คือแม่ #จบนะ

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
ผมดูหนังเรื่องนี้แล้วเกิดความรู้สึกหลายอย่างปนๆ กันครับ อย่างแรกเลยคือ ผมชอบนะ หนังดูเพลินกว่าที่คิด แม้ว่ามันจะไม่ได้ยอดเยี่ยมหรือลงตัวมากมายก็เถอะ
และอีกความรู้สึกหนึ่งคือรู้สึกแอบเศร้าและอาลัยครับ เพราะนี่เป็นผลงานการกำกับชิ้น สุดท้ายของ Garry Marshall ผู้กำกับที่คอหนังยุค 90 น่าจะจดจำได้ดีจาก Pretty Woman, Runaway Bride และ The Princess Diaries ทั้ง 2 ภาค
เพราะเขาได้จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา (ปี 2559) ซึ่งผมก็ขอไว้อาลัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพราะผู้กำกับคนนี้แม้ผลงานจะไม่ได้เข้าเป้าทุกเรื่อง แต่หนังของเขาก็สร้างความสุขให้กับคนรักหนังอย่างผมมานาน ตั้งแต่ผมเริ่มดูหนังใหม่ๆ ก็ว่าได้
สำหรับเรื่องนี้ก็มาในสไตล์ Valentine’s Day และ New Year’s Eve ผลงาน 2 เรื่องก่อนหน้าของ Marshall ที่จะจับเอาวันสำคัญสักวันหนึ่งมาเป็นฉากหลัง แล้วก็บอกเล่าเรื่องราวของตัวละครหลายๆ กลุ่มไปพร้อมกัน
ในเรื่องเราก็จะได้เจอกับ แซนดี้ (Jennifer Aniston) คุณแม่ลูกสองที่กำลังพยายามทำใจรับมือกับการที่สามีเก่า (Timothy Olyphant) กำลังจะแต่งงานใหม่กับสาวใสที่อ่อนกว่าเธอตั้งหลายปี
เจสซี่ (Kate Hudson) ก็กำลังกลุ้มใจว่าจะบอกพ่อแม่ของเธอดีไหมว่าเธออยู่กินกับคนอินเดีย (ประมาณว่าพ่อแม่ของเธอหัวโบราณหน่อยๆ รับเรื่องพวกนี้ไม่ได้น่ะครับ) ไหนจะน้องของเจสซี่เองก็มีความลับปกปิดพ่อแม่อยู่เหมือนกัน
แบรดลี่ย์ (Jason Sudeikis) คุณพ่อลูกสองที่พยายามทำตัวเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ดีที่สุด หลังจากภรรยาของเขาเสียชีวิตไป และ คริสติน (Britt Robertson) สาวน้อยที่กำลังตัดสินใจว่าจะไปเจอแม่ของเธอ (ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย) ดีไหม และเธอจะยอมแต่งงานกับแฟนหนุ่มของเธอดีไหม
ครับ ว่าตามจริงแล้วตัวหนังไม่ได้สุดยอดนะ แต่ผมชอบเพราะมันดูได้เพลินๆ ตามสไตล์หนังยุค 90 น่ะครับ ไม่หวือหวา ไม่ซับซ้อน หลายอย่างก็ดูออกแนวโลกสวย หรืออย่างบทสรุปของหลายๆ คู่ก็อาจดูเป็นสูตรสำเร็จหรือไม่ก็ลงเอยง่ายเกินไป
แต่สำหรับผมแล้ว ผมชอบเพราะมันเป็นแบบฉบับสูตรสำเร็จของหนังยุค 90 นี่แหละครับ เป็นสไตล์หนังดูง่ายที่ผมเชื่อว่าคอหนังรุ่นเดียวกับผมหลายคนก็คงรู้สึกดีที่ได้ดูหนังแบบนี้บ้าง เหมือนได้แวะไปเยี่ยมเพื่อนเก่าหรือบ้านเก่าๆ ที่คุ้นเคยน่ะครับ (มันรู้สึกอบอุ่นแบบบอกไม่ถูกจริงๆ นะ)
หนังมีฉากที่ผมชอบมากสุดๆ อยู่ฉากหนึ่งครับ ตอนที่แซนดี้คุยกับคุณตัวตลกที่มาแสดงในงาน (Matthew Walker) แล้วก็ระบายความในใจของคนเป็นแม่ ที่บางครั้งก็ตกที่นั่งเป็นเหมือนของตายสำหรับลูก เป็นเหมือนเครื่องใช้เก่าๆ ในบ้านที่ไม่ค่อยมีคนเห็นค่าแม้ว่าแท้จริงเราจะมีความหมายและความสำคัญแค่ไหนก็เถอะ
คุณตัวตลกก็เปรียบกับตัวเองน่ะครับ ว่าเขาทำอาชีพตัวตลกนี้ก็เจออะไรแบบเดียวกันนั่นแหละ เพราะตัวตลกนั้นเป็นเหมือนของตายประจำงานเลี้ยงต่างๆ บางครั้งก็ไม่มีคนสนใจสิ่งที่เขาแสดงด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยถ้าเขาทำให้เด็กบางคนในงานหัวเราะได้ หรือทำให้บรรยากาศในงานเลี้ยงมันดูเป็น “งานเลี้ยงที่สนุก” ขึ้นมาได้ เขาก็ยินดีแล้ว
ฉากที่ว่านี้ผมรู้สึกเหมือน “หนัง” คุยกับผมยังไงก็ไม่รู้ เพราะอย่างที่บอกน่ะครับ ผมเป็นเด็กยุค 90 ผมโตมากับหนังเก่าๆ ที่ดูสนุก อบอุ่น แต่อาจไม่ได้ลึกซึ้งอะไร ทว่ามันเป็นรากฐานที่ทำให้ผมรักการดูหนังมาจนถึงปัจจุบัน และจะว่าไปตัวหนังยุค 90 ก็คือรากฐานที่ทำให้เกิดการพัฒนาเป็นหนังยุค 2000 เหมือนกัน
ดังนั้นพอดูฉากที่ว่า ผมเลยรู้สึกน่ะครับว่า หนังเรื่องนี้แม้มันจะดูเชยสำหรับหลายๆ คน มันอาจดูเป็นสูตรสำเร็จหรือดูโลกสวยจนน่าขำ แต่หนังแนวนี้ก็สร้างความสุขให้กับคนรุ่นผมมานานหลายปี
มันทำให้คนอย่างเรามีกำลังใจและเชื่อว่ายังมีชีวิตที่ดีรออยู่นะ เชื่อว่ามันยังมีพื้นที่แห่งความเข้าใจอยู่นะ หรือเชื่อว่าแม้โลกจะแย่แค่ไหน แต่หากคนในครอบครัวยังคงมั่นรักกันและทำสิ่งดีๆ ต่อกัน มันก็จะช่วยพยุงกันและกันให้ก้าวเดินต่อไปในวันพรุ่งนี้ได้นะ
ยุคหนึ่งพอหนังโลกสวยมากๆ เราก็โหยหาหนังที่มีเนื้อหาจริงจัง แต่ทุกวันนี้ “ความจริงจังของโลก” มันรุกเรารอบด้าน แค่เปิดฟีดข่าวก็เจอไม่รู้กี่ความจริงแล้ว (ส่วนมากก็เป็นความจริงที่โหดร้ายทั้งนั้น) สงสัยถึงยุคหนึ่งหนังโลกสวยๆ อาจกลับมาโลดแล่นเป็นเรื่องเป็นราวอีกก็ได้
ดาราแต่ละคนก็เล่นกันดีครับ ทุกคนล้วนเป็นพลังสำคัญที่ทำให้หนังออกมาดูเพลิน และถ้าลองว่าเป็นหนังของ Marshall ก็จะขาด Hector Elizondo ไปไม่ได้ พี่แกต้องตามมาเล่นทุกเรื่องเสมอ
สรุปว่าผมชอบครับ ส่วนทุกท่านจะชอบหรือไม่คงต้องลองหาคำตอบดู หากจะให้แนะนำ ผมแนะนำคอหนังยุค 90 แบบผมน่ะครับ อยากให้ลองดูกัน เผื่อจะได้อารมณ์หวานเย็นสมัยก่อนขึ้นมาบ้าง หรือไม่ก็แฟนหนังของ Marshall ก็อยากให้ดูกันครับ เพราะนี่คืองานส่งท้ายของเขาแล้ว
แต่ถ้าถามผมนะ ผมว่านี่เป็นงานส่งท้ายที่ดีมากครับ ไม่ได้สุดยอด แต่มันมี Meaning บ้างอย่างที่แฟนหนังของเขา หรือไม่ก็คอหนังยุค 90 ต้องสัมผัสได้ ไม่มากก็น้อยครับ
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
Boyhood บอยฮูด
1994 0Boyhood เป็นหนังที่แสดงเรื่องราวจากวัยเด็กถึงวัยมหาวิทยาลัยของ เมสัน เขาเป็นเด็กธรรมดาๆคนหนึ่งที่อยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้างกัน หลังจากพ่อกับแม่หย่ากันแล้ว พ่อของเขาได้เดินทางไปทำงานที่อลาสก้าเขาจึงอาศัยอยู่กับแม่และพี่สาว ชีวิตของเมสันนั้นก็เหมือนกับเด็กทั่วๆไป แต่เขาจะต้องย้ายที่อยู่บ่อยตามแม่และน้องสาว ซึ่งแม่ของเขาเองก็ประสบกับเรื่องราวต่างๆที่เป็นปัญหาอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ทำทุกอย่างเพื่อลูกได้สุขสบายเหมือนเด็กคนอื่นๆ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด เมสันได้พบพ่ออีกครั้งหลังจากพ่อกลับมาจากอลาสก้า พ่อเขาได้พาเขาและพี่สาวไปเที่ยวทำให้สนิทสนมกันมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำให้พ่อและแม่อยู่ร่วมกันได้เช่นเดิม ชีวิตยังคงดำเนินต่อไปจนถึงจุดเปลี่ยนอีกจุดหนึ่ง เมื่อแม่ของเขาได้พบรักครั้งใหม่กับอาจารย์มหาวิทยาลัย และเขาก็เลยได้ย้ายบ้านอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่ปี แม่ก็ต้องหย่าร้างกับพ่อเลี้ยง เพราะว่าด้วยอารมณ์ที่ร้ายของพ่อเลี้ยง ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก เมื่อก้าวเข้าสู่วัยรุ่น เมสัน เกิดความสนใจในการถ่ายรูป เขาเริ่มมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ เริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆได้มากขึ้น ส่วนแม่ของเขาก็ได้งานเป็นอาจารย์ ซึ่งถือว่าครอบครัวเริ่มที่จะมั่นคงแล้ว เมสันก็เริ่มหางานทำเพื่อเลี้ยงตนเอง วิถีชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่ง เมื่อแม่ได้พบรักครั้งใหม่กับนายทหารหนุ่มผู้เคร่งครัดในกฎระเบียบ อย่างไรก็ตาม เมสันเองก็มุ่งหน้าตั้งใจเรียนและทำตามความฝันของตนเองจนสำเร็จ เรื่องราวต่างๆของเขาเหล่านี้ก็เหมือนกับชีวิตคนทั่วๆไป ล้มบ้าง ลุกบ้าง
รีวิว Jason Bourne (2016) เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย
1750 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ก่อนดูภาคนี้ก็เอาหนัง Bourne มาดูต่อกันยาวๆ ก็พบวาดีกรีความมันส์ยังคงได้ใจอยู่ (โดยส่วนตัวชอบภาคแรกมากขึ้นกว่าเดิมซะอีก) ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว High-Rise (2015) ตึกระทึกเสียดฟ้า
2786 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ถ้าใครอยากดูหนังเพื่อความบันเทิงเริงใจ ผ่อนคลายอารมณ์ล่ะก็ ขอเตือนแต่เนิ่นๆ ว่าเรื่องนี้ไม่ตอบโจทย์นั้นหรอกนะครับ เพราะเนื้อหามัน “ดราม่า” และสะท้อนความเยอะของคนแบบเต็มๆ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด