รีวิว Equals (2015) ฝ่ากฎล้ำ โลกห้ามรัก

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
หนังไซไฟดราม่าผสมโรแมนติกที่ชวนให้นึกถึงวรรณกรรมอย่าง Utopia มาเจอกับหนังอย่าง Gattaga ครับ ซึ่งจะว่าไปพล็อตก็ถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ยอมรับนะว่าผมสนใจเนื้อเรื่อง แต่ก็แอบคิดอยู่ว่าหนังอาจไม่ถึงขีดถึงเครื่องอะไรมากมาย คือคาดว่าคงอยู่ในระดับดูได้เพลินๆ มีอะไรให้เก็บไปคิด แต่อาจไม่ถึงขั้นน่าประทับใจแบบเต็มๆ และพอได้ดูแล้วก็พบว่าไม่ต่างจากที่คาดไว้เท่าไร
เรื่องในโลกยุคอนาคตที่คนอยู่กันอย่างไร้อารมณ์ความรู้สีกครับ พวกอารมณ์รัก-โลภ-โกรธ-หลงที่ถูกกำจัดไปหมด คนอยู่กันไปเรื่อยๆ โดยทำหน้าที่ของตนและมีปฏิสัมพันธ์กันตามสมควรเท่านั้น
แต่ก็มีเหมือนกันครับที่บางคนจะเกิดอารมณ์หรือความรู้สึกขึ้นมา ซึ่งสำหรับสังคมนี้จะถือว่าคนๆ นั้นเป็น “โรค” ครับ จึงก็ต้องไปหาหมอเข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อให้กลับมาไร้ซึ่งอารมณ์และความรู้สึกเหมือนเดิม
พระเอกของเราก็คือ ไซลาส (Nicholas Hoult) ที่พบว่าตัวเองเป็นโรคนี้ แล้วไม่นานเขาก็ค้นพบว่า นีอา (Kristen Stewart) เพื่อนร่วมงานก็มีอาการนี้เหมือนกัน แล้วเมื่อถึงจุดหนึ่งพวกเขาก็เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน และเกิดความรักต่อกัน… แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาต่อไป ก็หาคำตอบได้ในหนังนะครับ ^_^
พูดแบบตรงๆ เลยก็คือหนังนำเสนอแบบนิ่งๆ ครับ ไม่ได้มีฉากเร่งเร้าหรือตื่นเต้นอะไร มันคือการนำเสนอโลกที่ไร้อารมณ์ โทนสีต่างๆ ที่ใช้ในสังคมก็เป็นขาวๆ เทาๆ ไร้สีสันฉูดฉาด ดังนั้นสำหรับหลายๆ คนมันอาจดูน่าเบื่อ ซึ่งจะต่างจาก Gattaga ที่แม้สังคมจะดูมีกรอบ แต่ก็ไม่ถึงขั้นไร้อารมณ์ และยังพอมีสีสันแปลกตาดึงดูดเราได้บ้าง
หนังเรื่องนี้จึงไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอะไรที่เป็นโมโนโทนน่ะครับ ประเภทสีขาว-เทาๆ ชวนให้เราสงบเนิ่บนิ่ง ซึ่งผมเองถามว่ามีวาระเนิ่บจน เบื่อไหม ก็สารภาพว่ามีนะครับ แต่ระหว่างดูก็คิดไปน่ะว่า “เออ เน้อะ ก็เมืองมันไร้อารมณ์ และอยากให้คนไร้ความรู้สึก มันก็ต้องออกแบบให้สีสันจืดชืด ดูไร้อารมณ์ ไร้สิ่งเร้าแบบนี้แหละ ถูกต้องแล้ว” ดังนั้นโทนมันอาจชืดครับ แต่มันสมเหตุผลอยู่
ครับ แม้หนังจะจืดชืด และเดินเรื่องแบบเรื่อยๆ (ซึ่งก็ถือว่าสอดรับกับสังคมที่ไร้อารมณ์แบบในหนัง) แต่พล็อตผมว่าไม่เลวนะ คือช่วงต้นๆ มันอาจเรื่อยไปนิดครับ พอมาถึงตอนกลางๆ เมื่อไซลาสและนีอาเริ่มมีความรู้สึกต่อกัน มันก็น่าสนใจขึ้นมาหน่อย และความน่าสนใจจะมาเยอะตอนหลังๆ ครับ แอบมีให้ลุ้นด้วยว่าสุดท้ายแล้วชีวิตพวกเขาจะลงเอยอย่างไร
ผมชอบช่วงท้ายๆ ครับ มันมีอะไรคาดไม่ถึงอยู่เหมือนกัน ตอนแรกดูๆ ไปเราก็คิดว่า สุดท้ายพระเอกนางเอกคงหาทางหนีออกจากเมืองไปใช้ชีวิตใหม่นั่นแหละ ซึ่งมันก็มีแววจะเป็นแบบนั้นอยู่ครับ แต่พอดูๆ ไปมันมีอะไรมากกว่านั้น มันมีเงื่อนไขชวนให้ลุ้นมากกว่านั้น
และตอนจบนี่ ผมชอบเลยล่ะ มันได้อารมณ์อยู่นะครับ มันเป็นการจบที่ผสมกันระหว่างความหวังและความสิ้นหวัง ความรักและความว่าง ซึ่งแล้วแต่เราจะคิดกันต่อเอาเอง… แต่ไม่รู้สิ ผมรู้สึกว่ามันเป็นตอนจบที่ลงตัวดีสำหรับหนังเรื่องนี้
Hoult และ Stewart แสดงได้ดีครับ พวกเขาสามารถแสดงอารมณ์ได้อย่างพอเหมาะ ไม่ได้เยอะเกิน แต่ก็ไม่ได้ยิ่งเกินจนไร้อารมณ์แบบคนอื่นๆ รอบตัว นอกจากนี้ยังมี Guy Pearce มารับบทสมทบ ซึ่งรายนี้ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังครับ เพียงแต่บทอาจไม่เปิดโอกาสให้ทำอะไรมากสักเท่าไรเท่านั้นเอง
โดยรวมแล้ว ผมว่าหนังน่าสนใจครับ แต่มันอาจไม่ได้สนุกนะ และมันอาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกเบื่อด้วย ดังนั้นใครไม่ชอบหนังเนิ่บๆ หรือเบื่อง่าย ผมก็ไม่แนะนำครับ
แต่หากใครชอบหนังดราม่าที่มีกลิ่นอายของ Sci-Fi หรือชอบหนังโรแมนติกที่ไม่หวือหวา แต่ดูแล้วเชื่อว่าคนสองคนมีสายใยบางอย่างต่อกัน ผมว่าเรื่องนี้ก็ไม่เลวที่จะลองดูครับ อ้อ อีกอย่างผมว่ามุมกล้องกับภาพที่ได้ถือว่าสวยไม่ใช่น้อยเลยล่ะ ภาษาหนังถือว่าไม่เลวเลยล่ะครับ
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Jeruzalem (2015) เมืองปลุกปีศาจ
2450 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด สารภาพเลยว่าตอนก่อนดู ผมไม่รู้เลยจริงๆ นะเนี่ย ว่าหนังเป็นหนัง Found Footage คือไปดูแบบไม่รู้อะไรเลยน่ะครับ ในใจพาลคิดไปว่าจะมาแนว The Omen ด้วยซ้ำ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Dragonheart: Battle for the Heartfire (2017) ดราก้อนฮาร์ท 4 มหาสงครามมังกรไฟ
2530 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด DragonHeart ภาคแรกถือเป็นหนึ่งในหนังแฟนตาซีย้อนยุคที่ผสมกลิ่นอายเรื่องของอัศวินและการผจญภัยได้อย่างพอเหมาะ ที่สำคัญคือมีแง่คิด มีเนื้อหาชวนให้ประทับใจ จนถึงทุกวันนี้หากมีโอกาสผมก็ยังเอามาดูอยู่บ่อยๆ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว The Judge (2014) เดอะ จัดจ์ สู้เพื่อพ่อ
2044 0ปี 2014 ถือเป็นปีพักร้อนของ Robert Downey Jr. ครับ หลังจากโหมเล่นหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Iron Man, Sherlock Homes และ The Avengers มาหลายปี ก็ได้พักมาเล่นบทเล็กๆ ใน Chef ตามด้วย The Judge ผลงานชิ้นแรกของบริษัท Team Downey ที่เขาและภรรยา (Susan Downey) ร่วมกันก่อตั้งขึ้น ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด