หนังแนวพิศวาสฆาตกรรมแบบที่ฮิตทำกันออกมาในช่วงยุค 90 ว่าด้วยหญิงสาวใช้เสน่ห์ของตนลวงให้ชายซื่อๆ กระทำการฆาตกรรม หรือไม่ก็ยอมทำสิ่งผิดกฎหมายเพื่อเธอ

จริงๆ ดาราที่หนังเลือกใช้ถือว่าเลือกได้น่าสนใจและดึงดูดผู้ชมได้พอสมควรเลยล่ะครับ อย่างฝ่ายชายคือ Nick Jonas แห่งวง Jonas Brothers ที่ถือว่าดังพอตัวในอเมริกา แล้วก็เล่นหนังทีวีกับซีรี่ส์มาอีกหลายเรื่อง

ส่วนฝ่ายหญิงคือ Isabel Lucas สาวเสน่ห์แรงที่หนุ่มๆ น่าจะจำเธอได้จากบทเล็กๆ ใน Transformers: Revenge of the Fallen และล่าสุดก็ The Loft ที่หลายคนอาจคิดว่าเธอน่าสนใจกว่าหนังทั้งเรื่องซะอีก (555)

การเอา 2 คนมาเจอกันในหนังแบบนี้ถือว่าเริ่มได้ดีครับ ส่วนพล็อตก็มาตามสูตรเลย Jonas รับบท ดั๊ก มาร์ติน หนุ่มละอ่อนที่เพิ่งย้ายเข้าเมืองมา แล้วเขาก็ได้เจอกับสาวสวยอย่างลีน่า (Lucas) แต่เธอก็มีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วครับ เขาคือ เอเลียต (Dermot Mulroney) นักลงทุนผู้มั่งคั่ง

แล้วลีน่าก็มาปรากฏตัวให้ดั๊กเจอบ่อยๆ ครับ และเมื่อถึงจุดหนึ่งสัมพันธ์เชิงชู้สาวก็เริ่มต้น ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องระทึกในเวลาต่อมาเมื่อเกิดอะไรบางอย่างขึ้นกับเอเลียต ซึ่งดั๊กก็ต้องตัดสินใจล่ะครับว่าจะเอายังไงต่อ เมื่อลองว่าเขาขึ้นหลังเสือขนาดนี้แล้ว

ตัวหนังลงสูตรครับ อาจมีหักมุมบ้าง (ชวนให้นึกถึง Wild Things ในบางวาระ) ถ้าถามว่าโอเคไหม ก็ถือว่าโอเคครับ ดูได้เรื่อยๆ แม้จะไม่มีอะไรเกินคาดเดาก็ตามที เชื่อว่าพอดูไปถึงตอนท้ายๆ เราก็จะพอเดาใจตัวละครได้น่ะครับว่าใครจะทำอะไรต่อ และสุดท้ายเรื่องมันจะจบลงที่ตรงไหน

ข้อดีอย่างหนึ่ง (ของหนังสมัยนี้) คือภาพสวยและคมชัดครับ พวกทะเลสาบ, ต้นไม้ หรือฉากร้านอาหารริมน้ำที่มีไฟประดับยามค่ำคืน มันดูสวยงามและผมว่ามันมีส่วนทำให้เราถูกดึงเข้าไปในหนังได้ในระดับหนึ่งเลยล่ะ (อยากให้หนังบ้านเราเอาข้อดีทำนองนี้มาใช้บ่อยๆ จัง เพราะบ้านเราก็มีสถานที่งดงามมากมายออก)

ในแง่การแสดงของ 2 ตัวนำก็ถือว่าไม่เลวครับ เขาและเธอดูหล่อ-สวยและมีเสน่ห์พอดู แต่ถ้าพูดถึงเคมีที่มีต่อกันกับความเย้ายวน ถือว่ามีบ้างแต่ก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้หนังมันร้อนขนาดนั้น

ปฏิเสธไม่ได้ล่ะครับว่าคงมีคนรอดูฉากร้อนๆ ของ 2 คนนี้ อันนี้ก็ขอบอกตรงๆ เลยว่าอย่าคาดหวังให้มากจนเกินไป มันมีแค่พอประมาณ แต่ดีกรีความเสน่หามันไม่ได้หนักหนาเท่าที่ควร

ดารารายอื่นอย่าง Mulroney และ Paul Sorvino ก็เล่นได้แบบเสมอตัวครับ ไม่ได้เด่นหรือไม่ได้มีโอกาสแสดงฝีมืออะไรมากสักเท่าไร ซึ่งก็ดูจะเป็นเรื่องปกติสำหรับหนังประมาณนี้ไปแล้วที่จะมีดาราพอมีชื่อมาแจม แต่ก็ไม่ได้เล่นอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน

ยอมรับครับว่าหนังน่าสนใจ แต่ถ้าเทียบกับหนังสไตล์นี้สมัยก่อนแล้ว พลังความเสน่หาระหว่างตัวละครมันต่างกันจริงๆ คือสมัยก่อนหนังอย่าง Body Language หรือ Body Heat โทนหนังมันเหมือนค่อยๆ โอบล้อมคนดูด้วยแรงเสน่หาของตัวเอก และเราจะเชื่อได้ไม่ยากว่าคนที่ตกเป็นเหยื่ออารมณ์จะพร้อมทำอะไรก็ตามเพื่ออีกฝ่ายแน่ๆ ดูแล้วมันคล้อยตามน่ะครับ แต่กับหนังเรื่องนี้ พลังยังไม่มากขนาดนั้น

แต่แน่นอนว่าหนังแนวนี้ทำออกมาไม่ใช่เพื่อให้เราปฏิบัติตามหรอกครับ แต่เหมือนเป็นกรณีตัวอย่างที่เตือนให้เราระมัดระวังตน ไม่ตกเป็นเหยื่ออารมณ์, ไม่ตกเป็นทาสของเสน่หา จนเผลอไผลทำอะไรที่ผิดจนถอนตัวไม่ขึ้น

เพราะบางครั้งเมื่อเราทำลงไปแล้ว มันก็แก้อะไรไม่ได้ ทำได้แค่รอรับผลกรรมเท่านั้นเอง

สรุปว่าหนังไม่เลวครับ แต่ก็ไม่เด็ดจนต้องห้ามพลาด
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน