รีวิวซีรี่ส์ Doctor Who Season 9 (2015) ข้ามเวลากู้โลก ปี 9

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
ยอมรับเลยครับว่าตอนแรกที่ผมรู้ว่าด็อกเตอร์คนใหม่จะรับบทโดย Peter Capaldi นั้น ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะชอบด็อกเตอร์คนใหม่คนนี้ขนาดนี้ ^_^
รู้ครับว่า Capaldi เป็นนักแสดงที่เก่ง (ดูจากตอนเล่นเป็นคาร์ดินัลริเชลิว ในซีรี่ส์ The Musketeers ก็ได้ครับ บารมีพอเหมาะมากๆ) แต่ตอนนั้นผมนึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าคาแรคเตอร์ของด็อกเตอร์คนใหม่ในคราบ Capaldi จะออกมาเป็นยังไง
และผลก็คือ Steven Moffat ทำได้ครับ เขาปรับทิศทางและสไตล์คาแรคเตอร์ของด็อกเตอร์ให้เข้ากับ Capaldi เช่นเดียวกับที่ Capaldi สวมบทนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม และยังมันยังกลายเป็นการเพิ่มอะไรที่สดใหม่ใส่ลงในซีรี่ส์ได้อีกด้วย
สิ่งที่สัมผัสได้เลยคือด็อกเตอร์คนนี้มีมิติมากขึ้น ความเนิร์ดความต๊องน้อยลง ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และผยองน้อยลง ซึ่งเป็นคาแรคเตอร์ที่สัมผัสมาได้ตั้งแต่ปีก่อนครับ มาถึงปีนี้คาแรคเตอร์นั้นยังคงอยู่ ซ้ำยังดูมีพัฒนาการในแบบที่น่าสนใจขึ้นด้วย
ปีนี้ผมว่าสนุกมากครับ ตามปกติสูตรสำเร็จของ Doctor Who แต่ละปีนั้น 2 ตอนแรกจะสนุกสุด ก่อนจะค่อยๆ ลดระดับลงมาในตอนกลางๆ แล้วก็ไปสนุกอีกที 3 ตอนท้ายเลย แต่สำหรับปีนี้ ผมว่าสนุกทุกตอนครับ แต่ละตอนมีความน่าสนใจ มีบทที่น่าติดตามตลอดตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี
หากจะยกเว้นหน่อยก็คือตอนที่ 9 Sleep No More ที่นำเสนอในเชิง Found Footage ที่อาจไม่เข้ากับความเป็นด็อกเตอร์นัก แม้หลายๆ อย่างจะดูสยองและได้อารมณ์ผวาก็เถอะ
ตอนแรกเปิดมาก็มันส์แล้วครับ มีอะไรมันส์ๆ สนุกๆ เพียบจากตอน 1 ถึงตอน 2 ซึ่งจากการสังเกตพบว่าปีนี้แต่ละตอนมักจะมาเป็นคู่ครับ นั่นคือตอน 1 ต่อด้วย 2, ตอน 3 ต่อด้วย 4 ฯลฯ อะไรแบบนี้ จะไม่ได้เป็นตอนเดียวจบแบบปีก่อนๆ ซึ่งผลที่ได้ก็นับว่าดีครับ มันทำให้เกิดความน่าติดตามแบบต่อเนื่อง และสามารถเล่นกับปมที่ซับซ้อนได้มากขึ้น (มากกว่าการต้องเล่าทุกอย่างให้จบในตอนเดียว ซึ่งขนาดของพล็อตจะใหญ่มากไม่ได้)
ผมชอบปีนี้มากกว่าที่คิดครับ คือในแง่ความมันส์หรือสีสันมันอาจจะไม่ได้มากแบบสมัย David Tennant หรือ Matt Smith เป็นด็อกเตอร์น่ะนะครับ แต่มันดูลงตัว มันส์ และสนุกตรงรายละเอียดของบทแต่ละตอน มันเป็นส่วนผสมที่พอดีระหว่างเนื้อเรื่องมันๆ ปมปริศนาเยี่ยมๆ การแสดงเจ๋งๆ และภาวะทางอารมณ์ของด็อกเตอร์ที่มีต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ปีนี้สนุกสำหรับผมก็จริงครับ แต่มันเป็นปีที่ไม่ง่ายเลยสำหรับด็อกเตอร์ คือพี่แกต้องเจอเรื่องราวหลากหลาย ซึ่งหลายเรื่องมันก็กระทบต่ออารมณ์และความรู้สึกของเขาแน่นอน หลายเรื่องนี่จัดว่าโคตรเจ็บเลยล่ะครับ ผมเองยังอึ้งน่ะ แอบคิดระหว่างดูเลยว่า Moffat แกจัดหนักจริงในปีนี้ หลายฉากนี่ขยี้จิตใจแบบคาดไม่ถึง
ตอนที่เด็ดสุดของปี (ในใจผม) ขอยกให้ตอนที่ 11 Heaven Sent ครับ คือมันสุดยอดมากนะ ยกให้เป็น Top 3 ตอนที่ดีที่สุดของหนังชุดนี้เลยก็ว่าได้ มันเป็นอะไรที่ขยี้อารมณ์ เป็นอะไรที่ดูยิ่งใหญ่ อลังการ แต่กดดันและเจ็บปวดเหลือเกิน
ยิ่งตอนเฉลยว่าอะไรๆ เป็นอะไรนี่ ผมแทบอยากจะตะโกนออกมาดังๆ ว่า “โว้วววววววววววววววววววววววววววว” คือรู้สึกทรมานแทนด็อกเตอร์เลยน่ะครับ Capaldi ครองทั้งตอนได้อย่างอยู่มือจริงๆ
แอบทึ่งนะ เพราะตอนที่ว่ากำกับโดย Rachel Talalay ผู้กำกับที่ผมจำชื่อได้แม่น เพราะงานกำกับชิ้นแรกของเธอคือ Freddy’s Dead: The Final Nightmare ภาคจบ (ในสมัยนั้น) ของหนังนิ้วเขมือบ ซึ่งถ้าดูพัฒนาการจากวันนั้นมาถึงวันนี้ ถือว่าเธอมาไกลมากครับ ตอนนี้ถือว่าฝีมือเธอเข้าฝักพอดูแล้วล่ะ (จนไม่แปลกใจเลยที่เธอได้รับโอกาสให้กำกับตอนแรกของซีรี่ส์ Sherlock ปี 4 ครับ)
Capaldi เป็นด็อกเตอร์ได้แบบสนิทใจครับ ส่วน Jenna Coleman ก็เป็นคลาร่าได้ดีเช่นเดิม เพียงแต่ดีกรีความเด่นของเธอดูจะลดลง ส่วนหนึ่งคงเพราะปีนี้เทความเด่น ไปที่ Capaldi มากขึ้น และอีก 2 รายที่ลืมไม่ได้คือ Ingrid Oliver ในบทออสกู๊ด ตัวละครที่เด่นมากในตอนที่ 7 และ 8 (ซึ่งเธอมีบทบาทมาตั้งแต่ปีก่อนๆ แล้ว) กับ Maisie Williams แห่ง Game of Thrones ที่ได้รับบทสำคัญไม่น้อยเหมือนกันสำหรับปีนี้
จัดว่าสนุกครับ เป็นปีที่ไม่ผิดหวังเลย รวมถึงตอนพิเศษของปีที่จัดว่าเป็นตอนสำคัญของริเวอร์ ซอง (Alex Kingston) ด้วย ^_^
อยากดูปี 10 แล้วล่ะครับตอนนี้
คะแนนความชอบ 8.5/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Bright (2017) ไบรท์
3089 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด หนังเรื่องนี้ถือเป็นการประกาศของ Netflix ว่าเขาเอาจริงครับ ประมาณว่าพร้อมโดดลงมาเป็นผู้เล่นพร้อมแชร์ตลาดกับบรรดาค่ายหนังต่างๆ ที่ทำหนังฉายโรง เพราะถ้าว่ากันด้วยหน้าหนังแล้ว ฟอร์มมันดูดีกว่าหนังฉายโรงบางเรื่องซะอีก ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว The Hungover Games (2014) เกมล่าแก๊งเมารั่ว
565 0The Hungover Games คือหนังยำหนังครับ หลักๆ ก็คือล้อ The Hunger Game กับ The Hangover แล้วก็มีการล้อหนังดังอย่าง The Lone Ranger, Django Unchained, Ted และ Thor เป็นอาทิ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว อาบัติ (2015)
1935 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด สารภาพว่าทุกวันนี้ตอนเปิดอาบัติดูทีไร ผมยังขำไม่เลิกเมื่อชื่อหนังขึ้นไตเติ้ลว่า “อาปัติ” และทุกวันนี้เวลาเจอเพื่อนทีไร ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบเรื่องนี้มาพูดแบบฮาๆ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด