หนึ่งในหนังที่ตกค้างในหัวสมองตั้งแต่ต้นปี เพราะดูแล้วแต่ไม่ได้เขียนถึงเลยครับ ล่วงมาจนแผ่นจะออก เลยขอเขียนบอกเล่าความรู้สึกสักหน่อยก็แล้วกัน ^_^

ผมนั้นชอบภาคแรกนะ คือชอบแบบคาดไม่ถึง ตัวหนังมันบ้าบอติงต๊องได้โดนติ่งผมมาก คือถ้าจะบอกว่าหนังหาสาระไม่มีน่ะก็คงไม่เถียงเลยล่ะครับ เพราะดูเอาฮาเอาบันเทิงเป็นสรณะ แต่ก็แอบชื่นชมนาย Ben Stiller ที่สร้างหนังออกมาให้ต๊องแบบกำลังดีได้

ในขณะที่ภาคนี้ ตอนแรกจริงๆ คนกำกับจะต้องเป็น Justin Theroux คนเขียนบท Tropic Thunder ซึ่งพี่แกก็มาเขียนบทในภาคนี้ด้วย แต่ไปๆ มาๆ Stiller กลับกำกับเหมือนเดิม โดยไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น

ภาคนี้เล่าถึงเหตุการณ์ต่อจากภาคแรก หลัง ดีเรก ซูแลนเดอร์ (Stiller) เปิด “โรงเรียนสอนเด็กที่อ่านหนังสือไม่แตก” ซึ่งโรงเรียนที่ว่าดันกลายเป็นหายนะต่อเนื่องส่งผลทำให้ชีวิตของเขาพังครับ หลังจากนั้นดีเรกก็ปลีกวิเวกไปอยู่ป่า จนกระทั่งบิลลี่ เซน ไปตามตัวเขาให้กลับมาสู่วงการอีกครั้ง

แล้วก็ตามสูตรครับ ว่ามันต้องมีเรื่องวุ่นๆ เกิดขึ้น มีคนวางแผนร้ายอะไรสักอย่างเพื่อสะเทือนวงการแฟชั่น ซึ่งคนที่ต้องขัดขวางก็หนีไม่พ้นดีเรกกับแฮนเซล (Owen Wilson) คู่หูนายแบบรั่วตกรุ่นคู่นี้

ถ้าว่าแบบไม่อ้อมค้อม ผมชอบภาคแรกมากกว่าครับ อย่างที่บอกว่าภาคแรกมันต๊องลงตัว ดูเพลินกำลังดี ในขณะที่ภาคนี้แม้จะยิ่งมีความต๊องอยู่ แต่เหมือนจะต๊องน้อยลง ซึ่งก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าหนังมันต๊องไม่ถึงขีดหรือเพราะมันพยายามใส่สาระบางอย่างลงมามากขึ้นจนดีกรีความต๊องมันลดลงกันแน่

แต่เอาเป็นว่าหนังพยายามมีพล็อตมีทิศทางน่ะครับ แต่ด้านความตลกต๊องแบบภาคแรกมันไม่มากเท่าเดิม อย่างตัวดีเรกเอง ภาคแรกพี่แกก็ปัญญาอ่อนจนคนดูหลายคนชอบ (ผมก็ชอบนะ) แต่มาภาคนี้พี่แกต๊องน้อยลง

ถ้าให้คิดแบบมีเหตุผลก็คงเพราะเรื่องร้ายๆ ที่เขาเจอ เลยทำให้พี่แกมีสติมากขึ้น แต่พอเป็นแบบนั้น ความสนุกของหนัง (ที่จริงๆ แล้วขึ้นตรงกับดีกรีความปัญญาอ่อนของตัวละคร) มันเลยลดปริมาณลงโดยปริยาย

นอกจากความต๊องของตัวละครที่ลดลงแล้ว ลูกเล่นก็น้อยลงครับ อย่างภาคแรกนี่ลูกเล่นมาเรื่อยๆ ซึ่งผมว่าสูตรเด็ดอย่างหนึ่งคือหนังสรรหาเรื่องไร้สาระใส่ลงมาในจอ และต่อจากนั้นหนังก็พยายามอธิบายเรื่องไร้สาระที่ว่า ด้วยเหตุผลที่ไร้สาระหนักขึ้นไปอีก หนังมันเลยมีอะไรให้ฮาได้ตลอด (เพราะมันบ้าแล้วบ้าอีกน่ะครับ) แต่ภาคนี้ลูกเล่นแบบนั้นกลับมีไม่มาก

ด้านดารารับเชิญจริงๆ ก็เยอะอยู่ครับ แต่ผลที่ได้ส่วนมากจะออกแนวเรื่อยๆ ไม่ได้มาแล้วฮาตรึมแบบภาคแรก หรือบางคนจริงๆ ผมว่าฮานะ แต่มันยังไม่สุด (โดยเฉพาะพี่ Kiefer Sutherland) ในขณะที่บางคนอย่างพี่ Benedict Cumberbatch จริงๆ ก็ฮาครับ แต่เราเห็นที่ฮาๆ ในตัวอย่างไปหมดแล้ว พอเห็นอีกทีในหนังมันเลยไม่ตูมเท่าที่ควร

สรุปว่าความสนุกมันเลยลดลงครับ ภาคแรกสนุกและลงตัวกว่าจริงๆ ดังนั้นหากใครอยากดูภาคสองเพราะชอบภาคแรกล่ะก็ ขอให้ทำใจไว้หน่อยครับ เผื่อใจไว้สักนิด

ส่วนผมนั้น กลับรู้สึกอยากเอาภาคแรกมาดูใหม่ เพราะดูกี่รอบก็สนุกทุกรอบ เหมือนได้หลุดโลกสักพัก ก็เพลินดีเหมือนกัน (5555)
คะแนนความชอบ 5.5/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน