บอกตรงๆ ว่าตัวหนังน่ะผมไม่ได้สนใจอะไรเท่าไรนะครับ แต่พอเห็นชื่อดาราระดับเบิ้มๆ เรียงหน้ากันมาเล่นมันทำให้เกิดความสนใจขึ้นมาทันที

ขอบอกก่อนว่าที่ผมเขียนมันจะมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบ้างนะครับ ดังนั้นหากไม่อยากทราบจริงๆ ก็ไม่ควรอ่านต่อครับ เอาเป็นว่าถ้าให้บอกเบื้องต้นเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ล่ะก็ ตัวหนังจัดว่าออกมาเรื่อยๆ เหมือนๆ จะน่าสนใจ แต่ผลที่ได้ก็ถือว่าออกมากลางๆ ยังไม่ถึงขั้นเด็ดจัดๆ เท่านั้นเอง

พล็อตหนังชวนให้นึกถึง Face/Off ผสมกับ Self/less ครับ ว่าด้วย บิล โป๊บ (Ryan Reynolds) ซีไอเอหนุ่มที่กำลังปฏิบัติภารกิจสำคัญ อันส่งผลให้เขาต้องเจอกับอันตรายถึงชีวิตทีเดียว

แต่ด้วยความสำคัญมากๆ ของภารกิจเลยทำให้มีการเอาความทรงจำของบิลไปปลูกถ่ายใส่ลงในหัวของอาชญากรที่ถูกจองจำ นามว่าเจอริโค่ (Kevin Costner) พูดง่ายๆ คือเหมือนถอดร่างของบิลไปปลูกถ่ายลงในตัวเจอริโค่นั่น จุดประสงค์ก็เพื่อให้ภารกิจของบิลได้รับการสานต่อนั่นเอง

จริงๆ พล็อตแม้จะไม่ใหม่ แต่ก็ถือว่าพยายามจะให้มันใหม่อยู่เหมือนกันครับ อย่างการปลูกถ่ายบิลลงในร่างของเจอริโค่นั้น กระบวนการมันเหมือนค่อยเป็นค่อยไปครับ ประมาณว่าตอนแรกเจอริโค่ยังคงเป็นเจอริโค่อยู่ 100% แต่พอเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มมีความเป็นบิลมากขึ้นทีละ 5% อะไรแบบนั้นเป็นต้น

ซึ่งก็ถือเป็นอะไรที่เข้าท่าครับ เพราะตัวเจอริโค่นั้น จริงๆ พี่แกเป็นอาชญากรตัวเอ้ที่ไม่สนใจใครและห่างจากความมีเมตตา กรุณาไปนานมากๆ แล้ว แต่พอความเป็นบิล (ซึ่งเป็นคนมีคุณธรรม) ค่อยๆ เพิ่มจำนวนในตัวเขา เขาก็เริ่มมีความรู้สึก มีอารมณ์ และมีความอ่อนโยนเพิ่มขึ้น

แต่ก็ดังที่คาดล่ะครับ ว่าการนำเสนอในเรื่องนี้ยังปรุงไม่ลงตัวเท่าไร หรือถ้าให้ว่าจริงๆ แล้ว ตัวหนังเองก็ยังไม่ลงล็อคเท่าที่ควรครับ ไม่ว่าจะในแง่สืบสวน ดราม่า หรือแอ็กชันก็ตาม ผลที่ได้ออกมาถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ถึงกับเด่นเป็นพิเศษ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ย่ำแย่จนเกินรับ เพียงแต่ระหว่างดูมันจะเกิดความรู้สึกประมาณว่า “น่าจะเจ๋งกว่านี้ได้แฮะ” อยู่เนืองๆ น่ะครับ

ดาราคือพลังสำคัญขั้นรุนแรงของหนังเรื่องนี้เลยครับ ต้องบอกว่าฝีมือดีๆ ของดารานี่แหละที่พยุงให้คนดูหลายคน (รวมถึงผมด้วย) ยอมดูหนังจนจบ เพราะดาราที่ขนมานี่ก็มีตั้งแต่ Costner, Reynolds (รายนี้ออกแนวบทรับเชิญครับ), Gary Oldman, Tommy Lee Jones, Gal Gadot, Alice Eve และ Jordi Mollà (จาก Riddick และ Bad Boys II)

แต่ละชื่อนี่ดังทั้งนั้นเลยนะครับ และในแง่การแสดงก็ถือว่าพวกเขาช่วยหนังไว้ได้เยอะเลยล่ะ คืออาจจะไม่ได้แสดงสุดยอดแบบหนังเรื่องเด็ดๆ ของพวกเขา แต่ก็ถือว่าแสดงได้มาตรฐาน จนช่วยให้หนังที่ดูธรรมดาๆ เรื่องนี้ดูโอเคขึ้น

ดังนั้นก็ขึ้นกับเราแล้วล่ะครับว่าจะอยากลองดูหนังเรื่องนี้ไหม อย่างที่บอกครับว่ามันไม่ได้โดดเด่นหรือถึงขั้นต้องดู แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินรับ คือรวมๆ อาจมีช่วงอืดๆ และน่าเบื่อบ้าง แต่ก็ขอยกความดีให้เหล่าดาราล่ะครับที่ใช้ฝีมือมาดึงความสนใจคนดูได้โอเคในระดับหนึ่ง

และสำหรับผม หนังโกยคะแนนแดนบวกได้อีกไม่น้อยเพราะได้พี่จักรกฤษณ์มาพากย์เป็นพระเอกครับ อันนี้ชูรสหนังได้อีกเยอะเลยจริงๆ เชียว

แต่ถ้าให้ว่าแบบจริงใจ รอแผ่นก็ได้ครับสำหรับเรื่องนี้
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน