รีวิว (3) Captain America: Civil War (2016) กัปตันอเมริกา ศึกฮีโร่ระห่ำโลก
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
(ก่อนอื่นต้องบอกว่าอาจมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบ้างนะครับ หากไม่อยากทราบใดๆ ทั้งสิ้นก็สามารถหยุดอ่านได้ครับ หรือไว้ดูก่อนแล้วค่อยมาอ่านก็ได้ เพื่ออรรถรสที่ครบถ้วน)
พอพูดถึงนายพลรอสส์แล้ว ผมก็นึกถึงจุดดีประการต่อมาของหนังได้ครับ จุดดีที่ว่าคือทีมเขียนบทอย่าง Christopher Markus และ Stephen McFeely เก็บรายละเอียดของหนังได้ดีมาก อย่างตัวนายพลรอสส์ หากใครจำได้ก่อนหน้านี้พี่แกกึ่งๆ ร้ายและบ้าอำนาจ แต่หนังก็ใส่ใจตรงนี้ด้วยการเขียนบทอธิบายว่ารอสส์ไปเจออะไรมา เขาถึงได้กลายมาเป็นหัวหอกในการจัดระเบียบฮีโร่ครั้งนี้
หรือหากมองในแง่รายละเอียดอื่นๆ แล้ว จะพบว่าแทบทุกจุดมันมีเหตุและผลทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะเรื่องเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดต่อเนื่องจนส่งผลลูกโซ่ต่อๆ กันมา หรือธงในใจของฮีโร่แต่ละคนในการเลือกข้าง แต่ละคนล้วนมีอะไรสักอย่างที่ผลักดันให้เลือกด้วยกันทั้งสิ้น
อย่างตัวกัปตันเอง แต่เริ่มเขาเป็นทหารที่อยากจะทำเพื่อประเทศและประชาชน แม้จริงๆ ตัวเขาจะไม่พร้อมก็เถอะ (หุ่นขี้ก้างอย่างแรง) แต่พี่แกก็ยังพยายามจะปลอมเอกสารหรือไม่ก็แอบไปสมัครที่อื่นๆ เรียกว่าพร้อมใช้ทุกวิธี (ไม่ว่าจะแหกกฎหรือตามกฎ) เพื่อให้ตนได้ทำดีในแบบที่ตนต้องการ ดังนั้น ณ จุดเริ่มต้น จริงๆ กัปตันของเราก็มีแววขบถแฝงอยู่ในตัวอยู่แล้วล่ะครับ
ครั้นต่อมาในภาค The Winter Soldier กรอบแห่งศรัทธาในระบบระบอบของเขาก็ถูกทำลายลง เมื่อชิลด์ไม่เป็นแบบที่เขาคิด และองค์กรที่น่าเชื่อถือ กลับพร้อมจะตกเป็นเครื่องมือของคนผิดได้เสมอ (จริงๆ ประเด็นนี้ถือว่าถูกวางไว้แบบกรุ่นๆ ตั้งแต่ใน The Avengers แล้ว) เรียกว่าแต่ละสิ่งที่กัปตันเจอ ล้วนผลักดันให้เขาเชื่อในการตัดสินใจตนเองหรือไม่ก็เชื่อในคนที่เขาวางใจ มากกว่าจะเชื่อระบบ กฎ หรือองค์กร ซึ่งนั่นเองเป็นพื้นฐานที่ทำให้เขาคิดและตัดสินใจคัดค้านการโดนจับกลับเข้าไปในกรอบแบบนี้
ดังนั้นหากมามองธีมหลักที่กัปตันเจอในหลายภาคที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ธีมจะชักนำความคิดของกัปตันให้อย่าไว้ใจกฎ อย่าเชื่อมั่นในองค์กรให้มาก แต่จงเชื่อในตนเองและบุคคลรอบตัวที่เคียงบ่าเคียงไหล่เขามา
โดยในภาคนี้นอกจากกรอบความคิดของกัปตันที่ไม่เห็นด้วยกันการจัดระเบียบแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดกับเขาก็ยังผลักดันให้เขาต้องต่อต่านระเบียบนี้อีก นั่นคือเรื่องของบัคกี้ เพื่อนเก่าแก่ที่ถูกพวกไฮดร้าเอาไปใช้เป็นเครื่องจักรสังหารนานหลายสิบปี ซึ่งหนังก็ให้รายละเอียดครับว่าเพ็คกี้ คนรักของเขาจากไปในภาคนี้ เรียกว่าเขาไม่เหลือใครแล้ว ไม่เหลือเลยโดยสิ้นเชิง นอกจากบัคกี้เท่านั้น เลยไม่แปลกครับที่เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องบัคกี้ เพื่อนเก่าที่เขาเชื่อด้วยชีวิตว่าจะยังต้องมีความดีหลงเหลืออยู่บ้าง
แม้ชื่อเรื่องจะขึ้นว่า Captain America แต่เอาเข้าจริงแล้ว ไอออนแมน หรือโทนี่ สตาร์ก (Robert Downey Jr.) ก็เด่นไม่น้อย (แต่จะไม่เท่ากัปตัน) เรียกว่าเป็นเรื่องของกัปตันประมาณ 55% แล้วก็เป็นของโทนี่อีก 35% คนอื่นๆ แบ่งไปประมาณ 10% ซึ่งเราก็ได้รู้อะไรเกี่ยวกับโทนี่มากขึ้นครับ หลายอย่างก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจ (ยิ่งช่วงท้ายๆ นี่ ไม่แปลกใจที่โทนี่จะโกรธจัด… มันไม่ใช่อะไรที่จะทำใจได้ง่ายๆ)
ตัวโทนี่เอง จริงๆ ถ้าดูจากบุคลิกแล้ว พี่แกน่าจะแหกกฎมากกว่าใครน่ะนะครับ แต่หากพิจารณาจากเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาแล้ว จะพบว่ามันเป็นเหมือนขั้วตรงข้ามกับกัปตัน
ในขณะที่กัปตันเริ่มจากการอยู่ในระบบ อยู่ในกรอบ แล้วค่อยๆ ออกจากกรอบ แต่โทนี่กลับเป็นพวกที่อยู่นอกกรอบมานาน จนตระหนักดีว่าการทำอะไรโดยไร้ลิมิต ไร้ข้อจำกัด และไร้การควบคุมนั้นมันมีโทษเช่นไร เรียกว่าเหตุการณ์ในเรื่องราวที่ผ่านๆ มาทำให้โทนี่เห็นด้วยกับกฎและระเบียบมากขึ้น (อาจไม่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ก็คิดว่ามีกฎเป็นแกนให้เดินไว้บ้าง ดีกว่าทำอะไรตามอำเภอใจ)
ยิ่งถ้ามาสังเกตธีมหลักของสิ่งที่โทนี่เจอแล้วก็จะยิ่งชัดครับ เพราะทุกภาคธีมที่โทนี่เจอก็คือ “การรับผลกรรมจากสิ่งที่ตนเองกระทำ”
ภาคแรกเขาต้องพบว่าอาวุธที่บริษัทตนเองผลิต ที่ทำให้ตนมีเงินทองกองมหาศาลนั้นแท้จริงคือหายนะที่คุกคามความสงบของโลก ไหนจะเรื่องของยินเซ่นอีก (ใครดูภาคแรกคงยากจะลืม) ทั้งหมดทั้งปวงเลยทำให้เขามาเป็นไอออนแมน ส่วนหนึ่งก็เพื่อไถ่บาปบำบัดความรู้สึกผิดในใจของเขาเอง
มาภาค 2, 3 หรือกระทั่งภาค Altron เหล่าตัวร้ายที่มารุมกินโต๊ะเขาก็ล้วนถือกำเนิดขึ้นมาจากการกระทำของเขาทั้งสิ้น (ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน) หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งปวงที่เกิดกับโทนี่ ส่งผลให้โทนี่ทบทวนการกระทำของตนเองมากขึ้น
และประจวบเหมาะว่าคุณแม่ผู้สูญเสียลูกชาย เอาเรื่องสะเทือนใจไปบอกโทนี่อีก จึงไม่แปลกถ้าเขาจะรู้สึกผิดจนทนไม่ได้หากไม่ทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุที่เกิดขึ้น
จริงๆ หากมาลองพิจารณาแล้ว จะพบว่ามุมมองทั้งของกัปตันและของไอออนแมนที่มีต่อการจัดระเบียบนั้น มันก็มีทั้งส่วนผิดและส่วนถูกน่ะครับ มีทั้งส่วนที่มองจากหลักการและมองจากเรื่องส่วนตัวกลั้วๆ กัน
ซึ่งถ้าถามผมนะ ผมก็เข้าใจทั้ง 2 ข้างน่ะครับ ซึ่งถ้าเป็นผม ก็คงตัดสินใจแตะขาไปทางฝ่ายโทนี่ แต่ไม่ได้เห็นด้วยเต็มตัวนะ คือเห็นด้วยกับการมีกฎมีกรอบเป็นแนวทาง แต่ก็ต้องมีจุดยืดหยุ่นและต้องให้เหล่าฮีโร่มีสิทธิ์บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ระบบหรือใครก็ไม่รู้มาคุมแบบเบ็ดเสร็จ
รีวิวยังไม่จบครับ เหลืออีก 1 ตอน พรุ่งนี้เดี๋ยวมาต่อกัน
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Magic Mike XXL (2015) เต้นเปลื้องฝัน
2264 0Magic Mike XXL เป็นภาคต่อที่รสชาติจัดว่าเปลี่ยนไปจากภาคแรกพอสมควรครับ ในขณะที่ภาคแรกออกแนวดิบๆ ติดดินๆ พอมาภาคนี้รสชาติออกแนวภาพยนตร์แบบเต็มขั้นมากขึ้น มีการปรุงรส มีจังหวะการเดินเรื่องที่มีทิศทางแบบหนังชัดเจนขึ้น ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Beauty and The Beast (2014) บิวตี้ แอนด์ เดอะ บีสต์ ปาฏิหาริย์รักเทพบุตรอสูร
2787 0La belle et la bête หรือ Beauty and The Beast ฉบับล่าสุดที่กำกับโดย Christophe Gans ที่เคยทำ Silent Hill ภาคแรกออกมาอย่างน่าพอใจน่ะนะครับ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว The Lady in the Van (2015)
2305 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ขึ้นลิสต์ว่าต้องดูครับ เหตุผลง่ายๆ ก็คือมีเจ้าป้าคนโปรด Maggie Smith นำแสดง ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด