รีวิว The Ides of March (2011) การเมืองกินคน (ตอนที่ 1)

รีวิว The Ides of March (2011) การเมืองกินคน (ตอนที่ 1)

I001

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

“นักการเมืองก็ล้วนแต่พูดดีทั้งนั้นแหละ แต่เขาจะทำคุณผิดหวังไม่ช้าก็เร็ว เชื่อสิ” ไอด้า โฮโรวิทซ์ (Marisa Tomei) เหยี่ยวข่าวสายการเมืองที่คร่ำหวอดในวงการนี้ได้เอ่ยกับสตีเฟ่น เมเยอร์ส (Ryan Gosling) ตัวเอกของเรื่อง

สตีเฟ่นเป็นหนึ่งในทีมหาเสียงให้กับผู้ว่าไมค์ มอร์ริส (George Clooney) ที่กำลังลงแข่งขับเขี้ยวกับเท็ด พูลแมน เพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และถ้าใครชนะศึกครั้งนี้ ทางพรรคก็จะเสนอชื่อเพื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐสู้กับพรรครีพับลิกันต่อไป

ตอนผมหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาใจก็หวังจะดูหนังการเมืองดีๆ สักเรื่อง ปรากฏว่าเรื่องนี้ไม่ผิดหวังเลยครับ เพราะมันตีแผ่โลกการเมืองได้แบบโดนใจดี

หนังเล่าให้เราเห็นโลกแห่งการเกมการเมืองที่คนส่วนใหญ่หากถลำตัวลงไปแล้วก็มีแต่จะเปรอะเปื้อน ดังนั้นชื่อไทยของหนังที่ตั้งว่า “การเมืองกินคน” นั้นถือเป็นชื่อที่ตรงกับตัวหนังมากที่สุดในรอบหลายปีก็ว่าได้

I002

ครับ มันจะมีการสปอยล์แน่นอน ดังนั้นหากไม่อยากทราบขอให้อย่าอ่านต่อครับ หรือไม่ก็อ่านคำสรุปเบื้องต้นของหนังตรงนี้ก็ได้ว่า “ถ้าคุณอยากดูหนังการเมืองดีๆ ล่ะก็ เรื่องนี้ดูได้เลยครับ”

อันที่จริงสิ่งที่เราเห็นในหนังไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่หรอกครับ ยิ่งบ้านเราเนี่ย หลังผ่านเหตุมามากมาย ผมเชื่อว่าสื่อน่าจะนำเสนอความฉ้อฉลและกลการเมืองมาตีแผ่ให้เราเห็นหรือพิมพ์เป็นหนังสือให้เราอ่านจนรู้กันไปถึงไหนๆ แล้ว แต่สำหรับในรูปแบบหนังถือว่ามีน้อยครับ ดังนั้นผมจึงค่อนข้างชอบครับที่ได้เห็นหนังแบบนี้ออกมาให้เราชมกันบ้าง

กลหรือเกมการเมืองในหนังเราจะได้เห็นสารพัดแบบครับ เช่น “การสาดโคลนแบบไม่เลอะมือ” ก็แค่ฝ่ายหนึ่งหาข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามมา จากนั้นก็เก็บไว้ คัดเลือกเอาข้อมูลเด็ดๆ ที่มีไว้พังฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาสักชุดเพื่อเตรียมสาดโคลน แต่แทนที่จะให้ฝ่ายเราจะเป็นคนกล่าวประจานหรือสาดโคลนเอง เราก็แค่เอาข้อมูลไปหย่อนให้สื่อ ทำเป็นเอกสารสนเท่ห์ไปก็ได้ หรือให้ข่าวลอยๆ ไปที่หนังสือพิมพ์ก็ได้ ซึ่งพวกนักข่าวกับสื่อชอบอยู่แล้วครับ ข่าวฉาวที่ขายได้แบบเนี้ย

แล้วจากนั้นก็รอให้มันกระจายบอกต่อแบบปากต่อไปแบบเนียนๆ นั่งรอดูผลลัพธ์ไป เรียกว่าทำลายอีกฝ่ายโดยโคลนไม่เลอะมือ ต่อให้ใครจะพูดหรือลือว่าเราทำแต่มันก็ไร้หลักฐาน…

กลต่อมาก็คือการยุแยง อย่างที่สตีเฟ่นโดนครับ จริงๆ แล้วในตอนแรกน่ะเขาซื่อสัตย์นะครับ จงรักภักดีต่อไมค์อย่างมาก ทำอะไรนึกถึงไมค์ พูดถึงไมค์ และศรัทธาไมค์ตลอดเวลา เพราะเขาก็เชื่อในภาพลักษณ์อันแสนเป็นสุภาพบุรุษของไมค์ เชื่อมั่นถึงขนาดยอมช่วยปกปิดความผิดให้โดยไมค์ไม่ต้องร้องขอ

I003

สตีเฟ่นเป็นคนตรงครับ เป็นคนเก่งด้วย… แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกผันเมื่อทอม ดั๊ฟฟี่ (Paul Giamatti) หัวหน้าใหญ่ของทีมหาเสียงฝ่ายตรงข้าม ตัดสินใจเดินหมากลวงตา โดยเล่นกับความไว้วางใจเป็นหลัก

สตีเฟ่นซื่อสัตย์ครับ แต่ทอมรู้ว่า พอล ซาร่า (Philip Seymour Hoffman) หัวหน้าของสตีเฟ่นน่ะเป็นคนหวาดระแวง (ก็เล่นเกมการเมืองกันมานานจนรู้ไส้กันหมดนี่ครับ) ทอมเลยโทรเรียกสตีเฟ่นมาคุยโน่นนี่นิดหน่อย ทำเป็นเอ่ยข้อมูลสำคัญให้เขารู้ พร้อมเสนอตำแหน่งให้สตีเฟ่นย้ายมาทำงานกับเขาดีกว่า

สตีเฟ่นก็ไปด้วยใจตรงๆ น่ะครับ เขาไม่คิดจะหักหลังไมค์หรือพอลอยู่แล้ว และอันที่จริงคือเขาหมายจะล้วงข้อมูลจากทอมด้วย

จากนั้นก็ทิ้งช่วงไปพักใหญ่ๆ กว่าที่สตีเฟ่นจะบอกกับพอลถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งสตีเฟ่นก็คิดว่าพอลคงเข้าใจ แต่สำหรับพอลแล้ว สิ่งที่สตีเฟ่นทำ มันเพียงพอที่จะทำให้เขาไม่ไว้ใจสตีเฟ่นอีกต่อไป ไม่ว่าสตีเฟ่นจะยืนยันในความบริสุทธิ์ใจแค่ไหนก็เถอะ…

… บางครั้งความบริสุทธิ์ของคน ก็ไม่ได้อยู่ที่ว่าคนนั้นบริสุทธิ์หรือไม่ แต่อยู่ที่ “คำตอบในใจ” ของคนที่มองมากกว่า

I004

หลังจากสตีเฟ่นโดนพอลไล่ออก เขาก็เดินดุ่ยไปหาทอม พร้อมบอกว่ารับข้อเสนอ… แต่นาทีนั้นเองสตีเฟ่นถึงได้รู้ความจริง ว่าทอมไม่เคยต้องการได้เขามาทำงานเลยครับ จุดหมายที่แท้ของทอมก็แค่ทำให้พอลไม่ไว้ใจและไล่คนเก่งๆ อย่างสตีเฟ่นออก เพื่อให้ทีมของพอลอ่อนแอลง ทีนี้ทอมก็จะได้เอาชนะการเลือกตั้งง่ายขึ้น

“ถ้าฉันไม่ได้คนเก่งๆ อย่างนายมาทำงาน ฉันก็ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายมันได้ไปเหมือนกัน” ทอมสรุปเรื่องทั้งหมดเช่นนั้น… นึกถึงสามก๊กขึ้นมาทันที

มันคือเกมครับ มันคือการวางหมาก มันพลิกแพลงได้ตลอด บางสิ่งที่เราเห็นหรือเราคิดมันอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป อย่างสตีเฟ่นเองก็คิดมาตลอดว่าทอมคงอยากได้ตัวเขาไปทำงานบ้างไม่มากก็น้อย ดังนั้นพอเขาโดนอีกฝ่ายเขี่ยทิ้งก็เลยไปรับข้อเสนอ…

แต่ที่ไหนได้ เขาเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่ทอมเตี๊ยมทุกสิ่งไว้ เพื่อกำจัดให้ออกจากกระดาน… กำจัดออก หาใช่ดึงมาเป็นพวกไม่

บางครั้งคนเก่งที่เก่งเกินไป ก็อันตรายเกินกว่าจะปล่อยให้มีส่วนในเกม…
โปรดติดตามตอนต่อไป
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิว Kick-Ass 2 (2013) เกรียนโคตรมหาประลัย 2

2507 0

สิ่งที่ยังทำให้ Kick-Ass 2 ดูสนุก ยกให้การแสดงจี๊ดๆ ของ Chloë Grace Moretz ที่นอกจากจะแซ่บในคราบฮิทเกิร์ลแล้ว คราวนี้ยังพกเอาความน่ารักมาละลายใจหนุ่มๆ ในคราบนักเรียนสาวใสอีกต่างหาก ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว War for the Planet of the Apes (2017) มหาสงครามพิภพวานร (ตอนที่ 2)

2128 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ดนตรีประกอบก็เป็นอีกหนึ่งของดีที่เสริมรสชาติให้กับหนังได้อย่างเยอะ ซึ่งก็เป็นฝีมือของ Michael Giacchino คอมโพเซอร์ที่อุดมผลงานสร้างสรรค์มากๆ ในระยะหลัง จุดเด่นของดนตรีในภาคนี้ไม่ได้เน้นอารมณ์อลังการหรือโฉ่งฉ่าง แต่เน้น “น้อยแต่แน่น” ครับ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว Like Cats & Dogs (2017)

207 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด หนังรักอารมณ์ละมุนสไตล์ Hallmark อีกเรื่องแล้วครับ ว่าตามจริงเรื่องนี้ไม่ถึงขั้นเด็ดจนห้ามพลาด แต่ถ้าดูเอาเพลิน ดูเอาความน่ารักและโรแมนติกล่ะก็ ผมถือว่าหนังทำได้เวิร์กในระดับหนึ่งทีเดียว ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด