รีวิว Little Forest: Summer/Autumn (2014)

https://www.youtube.com/watch?v=jWmSV7-eFM8
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
ผมรู้สึกรักหนังเรื่องนี้ตั้งแต่นาทีแรกๆ เลยครับ
ภาพที่เห็นตั้งแต่ฉากแรกคือความเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ในชนบท เต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบและสดชื่น ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม
บอกเลยครับว่าระยะหลังๆ นี่ผมชอบดูภาพและคลิปเกี่ยวกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะน้ำตก สายน้ำ ป่าเขา สำหรับผมมันไม่ได้เป็นเพียงการพักผ่อนสายตาชั่วครั้งคราว แต่ภาพธรรมชาติที่เห็นมันสื่อลึกไปถึงจิตใจ
ทำให้เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ (ที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอันไพศาล) และเล็กจ้อย (เพราะเรานั้นเล็กจิ๋วเมื่อเทียบกับสรรพสิ่ง) ของตัวเราไปในคราวเดียว
Little Forest สร้างจากการ์ตูนญี่ปุ่นครับ โดยฉบับหนังแบ่งออกเป็น 2 ภาค แต่ละภาคแบ่งเล่าเป็น 2 ฤดู ภาคแรกนี่จะเล่าถึงฤดูร้อน ตามด้วยฤดูใบไม้ร่วงครับ ตัวเอกคือสาวน้อยนามว่า อิจิโกะ (Ai Hashimoto) ที่เลือกจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังเก่าที่เธอเคยอยู่กับแม่
บ้านหลังที่ว่านี้อยู่กลางป่าเขาครับ ล้อมด้วยธรรมชาติ เป็นเขตชนบทที่วิถีชีวิตชาวบ้านเป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่ละบ้านก็ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์กินกัน หากมีเหลือก็แบ่งไปขาย อยู่แบบง่ายๆ กินแบบง่ายๆ นอนแบบง่ายๆ ตามประสา
ผมเชื่อว่าหลายคนมองหนังเรื่องนี้ว่าเป็นหนัง Slow Life เป็นหนังประเภทตัวละครเบื่อความวุ่นวายของเมืองใหญ่ เลยกลับไปใช้ชีวิตง่ายๆ ที่ต่างจังหวัด กินนอนในป่าเขา สุขใจไร้สารพิษอะไรประมาณนั้น
ซึ่งถ้าว่ากันถึงหน้าหนังแล้วก็ออกแนวนั้นครับ แต่เอาเข้าจริงๆ มันคือหนังดราม่าที่ซ่อนความหมายแห่งชีวิตเอาไว้
ผมมองว่าหนังเหมือน Into the Wild ครับ เหมือนตรงที่ตัวเอกอำลาจากเมืองใหญ่ไปอยู่กับธรรมชาติ แต่ขณะเดียวกันในใจของตัวเอกนั้นก็มีอะไรซ่อนอยู่
… พวกเขาไม่ได้ไปอยู่ป่าด้วยใจที่ “เต็ม” แต่ไปด้วยใจที่ “ขาด”
ในภาคแรกนี้ประเด็นทางจิตใจของอิจิโกะอาจยังไม่ได้รับการเฉลยหรือชี้ชัดอะไรนักครับ ดังนั้นผมจะพูดถึงประเด็นนี้อีกทีตอนเขียนถึงภาค 2 แล้วกันครับ
สำหรับภาคนี้ สิ่งที่หนังนำเสนอให้เราเห็นก็คือวิถีชีวิตของอิจิโกะที่ลงมือเพาะปลูกพืชไว้กินเอง แล้วก็ทำอาหารเอง ซึ่งการทำอาหารนี่ถือเป็นไฮไล ท์เลยครับ เมนูต่างๆ ที่เธอทำล้วนเรียบง่าย (ชนิดที่เราเองก็ทำได้ ขอเพียงมีวัตถุดิบ) และดูน่ากินอย่างแรก แต่สิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือ อาหารหลายๆ จานที่เธอทำ มันมีนัยบางอย่างซ่อนให้เราค้นหา
บางจานแสดงถึงนิสัยหรือตัวตนของเธอ (เช่น จานที่ทำแล้วเยอะเกินไป จนเหลือเพียบ)
บางจานบ่งบอกถึงอารมณ์ ณ ขณะนั้นของเธอ
บางจานทำให้เรารู้อดีตที่เธอเคยเผชิญมา (ทั้งดีและร้าย)
บางจานเป็นอาหารที่แม่ของเธอเคยทำให้กิน (ซึ่งพอเธอเป็นคนทำเอง เธอก็จึงเข้าใจถึงอะไรหลายๆ อย่างที่เธอเคยไม่เข้าใจเมื่อสมัยเด็กๆ)
อาหารแต่ละจานที่เธอทำ นอกจากจะหล่อเลี้ยงชีวิต ทำให้เธออิ่มท้องในแต่ละวันแล้ว มันยังมีส่วนช่วยให้เธอได้ทบทวนชีวิตที่ผ่านมา และช่วยให้เธอได้ใคร่ครวญเกี่ยวกับตนเองและผู้อื่นด้วย
ดังนั้นภายใต้ความเรียบง่ายของหนัง และการเดินเรื่องที่ไร้ความหวือหวาซับซ้อน ยังมีจุดน่าสนใจหลายอย่างให้ไตร่ตรอง… หากเราเลือกที่จะใส่ใจพิจารณามองมัน
รู้ไหมครับ ผมว่าการดูหนังเรื่องนี้ก็เหมือนเรานั่งชมธรรมชาตินั่นแหละครับ
… แม้ธรรมชาติจะดูเรียบง่าย ดูจืดชืด ดูอืดเอื่อย แต่มันก็มีความจริงที่หลากหลาย รอให้เราหยิบมาเรียนรู้ รอให้เราเอามาใช้นำทาง รอให้เรานำมาปรับใช้กับชีวิต
คงน่าเสียดาย หากเราถูกความเรียบง่ายบังตา จนพลาดสาระอันทรงคุณค่าที่ธรรมชาติคอยบอก คอยสอนให้เราแบบฟรีๆ
หากพูดถึงหนังแล้ว ยอมรับครับว่าหนังเรียบเรื่อย จนอาจทำให้คนที่ไม่ชอบหนังดราม่า หรือไม่ชอบหนังที่เดินเรื่องช้าๆ พาลเบื่อเอาได้ง่ายๆ ดังนั้นหากใครไม่สันทัดหนังเรื่อยๆ ชมนกชมไม้ ก็คงต้องบอกไว้ก่อนครับว่าหนังอาจไม่แนวสำหรับท่าน
แต่หากใครชอบหนังว่าด้วยธรรมชาติ, ชอบหนังดราม่า, ชอบหนังว่าด้วยการค้นหาความหมายของชีวิตและความเป็นคน ผมเชื่อว่าท่านต้องโปรดปรานหนังเรื่องนี้ไม่มากก็น้อยครับ
และใครก็ตามที่กำลังรู้สึกสับสนในชีวิต ผมยิ่งอยากให้ท่านได้ลองดูหนังชุดนี้ครับ… ในกรณีนี้ไม่ว่าท่านจะชอบหนังแนวนี้หรือไม่ก็ตาม หรือต่อให้เป็นคนเบื่อหนังเรียบง่ายก็เถอะ ผมก็อยากให้ลองชมดูสักรอบครับ เพราะมันอาจให้แง่คิดบางอย่างก็ได้
มันอาจให้อะไรกับชีวิตเราได้ มากกว่าที่คิด
เพราะบางครั้งชีวิตเราก็ควรถูกเติมให้เต็มด้วย “ความว่าง”
และบางครั้งหากเราอยากให้ชีวิตง่ายขึ้น เราก็ควรเริ่มต้นนำพาอะไรง่ายๆ เข้ามาสู่ชีวิตดูบ้าง
และหนังง่ายๆ เรื่องนี้ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะช่วยให้เราเห็นอะไรบางอย่าง อาทิเช่นแนวทางสู่การมีชีวิตที่ง่ายขึ้น ท่ามกลางโลกที่แสนวุ่นวายใบนี้
… แต่ผมไม่ได้บอกว่าการไปอยู่ป่าของอิจิโกะคือทางออกของชีวิตนะครับ… ของแบบนี้ต้องดูให้จบถึงจะเข้าใจ
ไว้ว่ากันต่อในรีวิวภาค 2 ครับ
คะแนนความชอบ 8/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Get Hard (2015) เก็ทฮาร์ด มือใหม่หัดห้าว
2727 0เหตุผล ที่ชวนให้ผมอยากดู Get Hard ก็คือพี่ Will Ferrell (Anchorman) จอมฮา มาเจอกับ Kevin Hart (The Wedding Ringer) จอมพล่าม ดังนั้นหนังมันก็น่าจะสนุกอยู่นะ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด Ferrell รับบท เจมส์ คิง นักธุรกิจร้อยล้านที่ดวงกำลังรุ่ง แต่แล้วจู่ๆ เขาก็โดนตำรวจรวบตัวครับ พร้อมข้อหาฉ้อโกงอีกหลายกระทง ทำให้เขาเหลือเวลาอีก 30 วันก่อนจะโดนจับเขาซังเต ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิวซีรี่ส์ Nashville season 1 (2012 – 2013) บทเพลง บรรเลงฝัน ปี 1
2850 0สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมติดตามดู Nashville จนจบปี 1 คือเสียงดนตรีครับ แต่ละตอนจะมีบทเพลงแนวคันทรี่เพราะๆ มาให้เราได้ฟังกัน ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ถ้าพูดถึงพล็อตจริงๆ แล้วก็อาจจะออกแนวน้ำเน่าสำหรับใครหลายคน เรื่องของนักร้องรุ่นเก่าที่ยังพราวเสน่ห์อย่าง เรย์น่า (Connie Britton) กับนักร้องสาวสวยรุ่นใหม่เสียงดีอย่าง จูเลียต (Hayden Panettiere) ซึ่งเนื้อเรื่องในแต่ละตอนก็จะมีทั้งดราม่าสไตล์ 2 นักร้องคอยชิงดีชิงเด่นกันบ้าง หรือบางจังหวะก็จะหันมาเข้าอกเข้าใจกันบ้าง แล้วแต่เหตุการณ์จะพาไป ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Hector and the Search for Happiness (2014) เฮคเตอร์ แย้มไว้ให้โลกยิ้ม
2381 0Hector and the Search for Happiness เป็นหนังที่น่าสนใจดีครับ เรื่องราวว่าด้วยเฮคเตอร์ (Simon Pegg) จิตแพทย์หนุ่มที่น่าจะมีชีวิตอันแสนสุข เพราะงานที่ทำก็ประสบความสำเร็จ มีคนมาให้บำบัดไม่ขาดสาย อีกทั้งยังได้แต่งงานกับสาวสวยสุดเก่งอย่างคลาร่า (Rosamund Pike) อีกด้วย ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด