Like This Video 2073

Added by พี่หมื่น 16/01/2016

จากนิยายของ Dean R. Koontz นักเขียนแนวเขย่าขวัญที่ผมโปรดอีกคนมาสู่จอภาพยนตร์ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ผมกังขาพอสมควร เพราะกำกับโดย Stephen Sommers แห่ง The Mummy ทั้ง 2 ภาค และ Van Helsing แต่กลับไม่มีบริษัทจัดจำหน่ายไหนซื้อเอาเข้าโรง ทั้งที่ตัวหนังเสร็จมาเป็นปีแล้ว แอบสงสัยเหมือนกันว่าหนังมันจะเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือ

พอดูแล้วผมว่าหนังก็โอเคนะครับ ดูเพลินดี เพียงแต่อาจไม่ถึงกับสดใหม่อะไรนัก และถ้าถามว่าสนุกมากไหมก็ตอบได้ว่า “ไม่ได้มากถึงขนาดห้ามพลาด แต่ดูเอาบันเทิงได้สบายๆ”

หนังว่าด้วยนายอ๊อด โธมัส (Anton Yelchin) หนุ่มจิตสัมผัสที่สามารถเห็นผีและสิ่งเหนือธรรมชาติได้ หลายครั้งทีเดียวครับที่เขาใช้ความสามารถนี้ช่วยตำรวจในการเล่นงานคนร้าย และล่าสุดเขาสัมผัสได้ว่ากำลังจะเกิดหายนะครั้งใหญ่ในเมืองนี้ เป็นหายนะระดับที่อาจทำให้คนนับร้อยต้องเสียชีวิต เขาจึงต้องแข่งกับเวลาเพื่อสืบหาว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น

ดูแล้วนึกถึง The Frighteners ครับ พระเอกหงอๆ สักหน่อย เห็นผีและพยายามยับยั้งเหตุร้าย แต่กับเรื่อง Odd Thomas นี่ไม่ได้สนุกขนาดนั้นครับ ยอมรับว่าในแง่หนึ่งผมพอเข้าใจนะว่าทำไมถึงไม่มีใครคิดซื้อไปเข้าโรงฉาย นั่นเพราะแม้หนังจะออกมาโอเค แต่ก็ไม่ได้แปลกใหม่ (อย่างที่บอกครับ เหมือน The Frighteners และสนุกน้อยกว่า ซึ่งขนาดเรื่องนั้นสนุกกว่ายังทำเงินไปแค่ 18 ล้านเลย) ไม่ได้มีอะไรดึงดูดไม่ว่าจะดาราหรือเนื้อหา ทำให้ในแง่การตลาดหากจะเอาหนังเข้าฉายให้ได้เงินก็ต้องใช้กำลังภายในในการประชาสัมพันธ์เยอะอยู่ครับ หลายแห่งคงกลัวได้ไม่คุ้มก็เลยลอยแพหนัง

แต่ถ้าว่าถึงในแง่ตัวหนังแล้ว ผมว่ามันก็เพลินอยู่ครับ ดาราแม้ไม่ได้ระดับแม่เหล็กแต่ก็เข้ากับบทดี อย่าง Yelchin นี่ก็ดูไปได้ไม่เลวกับบทอ๊อด โธมัส เสียดายนิดๆ ตรงที่บทหนังยังไม่ดันให้เขาเด่นเท่าที่ควร แต่ในแง่การแสดงอารมณ์ผมว่าเขาไม่ทำให้ผิดหวังครับ แล้วก็ยังได้ Dafoe มาเสริมทัพ ขานี้ก็เล่นดีเหมือนกัน แต่บทไม่เปิดโอกาสให้ทำอะไรมาก และคนที่ลืมไม่ได้แน่ๆ (สำหรับหนุ่มๆ) คือ Addison Timlin ในบท สตรอมมี่ เลเวลลิน นางเอกของเรื่องที่สวย น่ารัก น่าเอ็นดูสุดๆ เชื่อว่าฉากที่อ๊อดมองเธอแบบตาค้าง ก็คงมีใครหลายคนมองตาค้างแบบเดียวกับอ๊อดแน่ๆ

หลายองค์ประกอบถือว่าดีนะครับ ดาราดี เทคนิคพิเศษก็ไม่เลวโดยเฉพาะตอนท้ายที่เหล่าสัมภเวสีรวมตัวกันนั่นทำได้นรกแตกมาก แต่จุดพร่องที่ใหญ่ที่สุดของหนังคือบทครับ บทยังไม่สนุกพอ ยังไม่เฉียบพอ

ว่าตามจริงพล็อตมันธรรมดาครับ คนเห็นผีและพยายามสู้กับความชั่ว ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะช่วยชูรสให้หนังอร่อยขึ้นก็คือ ลูกเล่น (อาทิเช่น อารมณ์ขัน, จุดพลิกผันหักมุม, ความลึกของมิติตัวละคร, พล็อตรองที่ช่วยดึงความสนใจ) และการผูกเรื่องผูกปมให้มันน่าติดตาม ซึ่งในหนังนั้นพล็อตจริงๆ ก็มีความซับซ้อนนะครับ แต่ยังเล่าได้ไม่มันส์ ความตื่นเต้นยังไม่เยอะ และที่น่าเสียดายหน่อยคือไคลแม็กซ์ที่ยังลุ้นได้อีก (เสียดายสัมภเวสีน่ะครับ เห็นโผล่มาเยอะๆ และดูท่าจะมีฤทธิ์ไม่น้อย แต่กลับมีบทบาทในตอนท้ายน้อยเกินคาด)

ที่ออกแนวบอกๆ บ่นๆ แบบนี้ไม่ได้แปลว่าหนังไม่ดีนะครับ มันถือว่าดีตามมาตรฐาน ดูสนุกได้ แต่ยังไม่เด็ดเต็มขั้น ทั้งที่หากทำดีๆ ใส่ลูกเล่นเยอะๆ ปรุงรสอีกหน่อย เล่าเรื่องล่อหลอกคนดูอีกนิด และตามด้วยฉากไคลแม็กซ์ที่ลุ้นระทึกหนักๆ เชื่อว่าหนังจะต้องเป็นที่น่าจดจำแน่นอน และเท่าที่ดูนี่หนังทิ้งท้ายไว้สำหรับภาคต่อด้วยครับ เลยอดเสียดายไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าหนังจะขาดทุนหรือไม่ก็คิดว่าคงไม่ขาดทุนครับ เพราะทุนสร้างประมาณ 30 ล้านเหรียญ ยังไงก็น่าจะทำเงินกลบทุนได้

เป็นอีกเรื่องที่ผมแนะนำให้ดูได้ครับ หากต้องซื้อตั๋ว 160 บาทเพื่อดูอาจต้องคิดหนัก แต่ถ้าเช่าแค่ไม่กี่สิบผมว่าคุ้มน่ะ ใครชอบหนังอย่าง The Frighteners หรือ Fright Night (ที่ Yelchin แสดงนำเหมือนกัน) ผมว่าเรื่องนี้น่าจะตอบสนองความบันเทิงให้ท่านได้อยู่ครับ
คะแนนความชอบ 6.5/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน