รีวิว Haven Season 4 (2013) เฮเว่น เมืองอาถรรพ์ ปี 4

รีวิว Haven Season 4 (2013) เฮเว่น เมืองอาถรรพ์ ปี 4

H001

ดูHaven มาถึงปี 4 แล้วครับ ซึ่งสงสัยผมจะถึงจุดอิ่มตัว เพราะความรู้สึกมันไม่ถึงกับชอบเหมือน 3 ปีแรก ซึ่งจริงๆ ปี 1 สนุกดี ปี 2 ก็ยังสนุก ส่วนปี 3 แม้หลายคนจะบอกว่ามันเริ่มออกทะเล แต่ผมก็ยังรู้สึกโอเคกับมันอยู่

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

ทว่าพอถึงปี 4 นี่ รู้สึกว่าหลายๆ อย่างมันเริ่มซ้ำน่ะครับ แม้จะพยายามผูกปมใหม่ๆ ลงไป ไม่ว่าจะเรื่องของ ออเดรย์ (Emily Rose) ที่ปีนี้มีปมใหม่ๆ ตามออกมา มีตัวละครใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับอดีตของออเดรย์ตามมาสร้างปมสำคัญของปีนี้ แต่ลีลาการเดินเรื่องมันไม่ครบรสเหมือนปีก่อนๆ ที่มีทั้งลึกลับ สืบสวน ตื่นเต้น และอารมณ์ขัน (คล้ายๆ The X-Files) ในขณะที่ปีนี้กลับรู้สึกว่าโทนมันไม่ลงตัวเหมือนปีก่อนๆ คือมันยังคงลึกลับ แต่อารมณ์มันไม่ได้น่าติดตามเท่าเก่า ความตื่นเต้นไม่มากเท่าเก่าน่ะครับ

และหลายๆ ตัวละครพอดูแล้วก็ให้ความรู้สึก แปลกไป อย่างพี่น้องตระกูลทีค (Richard Donat และ John Dunsworth) ที่ปีแรกๆ ผมว่าพอเหมาะนะ ครบทั้งอารมณ์ขันและปริศนา ที่ชวนให้รู้สึกว่าตัวละครคู่นี้ต้องมีอะไรแน่ๆ แต่พอมาปีนี้เหมือนเสน่ห์พวกเขาลดลงน่ะครับไม่ได้เป็นส่วนผสมที่พอเหมาะระหว่างปริศนากับอารมณ์ขันอีกต่อไป

หรือ Adam Copeland ในบทดไวท์ ผู้คอยช่วยปกปิดเรื่องบ้าๆ ในเมือง ปีก่อนๆ ผมว่าเปิดตัวเขาได้ดีนะ ดูจะเป็นบทที่มีอะไรเล่นได้เยอะ แต่เอาเข้าจริงหนังก็ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากตัวละครนี้สักเท่าไร

H002
ปีนี้หนังยังมีตัวละครใหม่อย่าง Emma Lahana ที่ว่ากันตรงๆ เลยคือเธอสวยนะครับ ดูน่ารักมีเสน่ห์ และดูเป็นบทที่น่าสนใจมากๆ ตั้งแต่ตอนต้นปี (ผมฮาตอนเธอเข้าเมืองเฮเว่นมาสักพัก เธอทำท่าจะชอบความสงบของเมือง แต่พอเจอเรื่องบ้าๆ ในเมือง เธอก็พูดออกมาว่า “อยากบอกว่าฉันไม่ชอบเมืองนี้เลย!” 555) แต่ไปๆ มาๆ บทนี้ก็ไม่มีอะไรพิเศษอีกเช่นกัน

รู้สึกว่าปีนี้พลังความน่าสนใจ ลดลงน่ะครับ ผมก็ไม่อยากจะโทษซีรี่ส์นะ อาจเป็นเพราะผมเฉยเองก็ได้ แต่ปกติสำหรับผมแล้ว ถ้าซีรี่ส์มันสนุก ดูยังไงมันก็สนุกนะ อย่าง X-Files, Supernatural, Buffy, Angel หรือ CSI (ยกเว้นปีหลังๆ) ถ้ามันเพลินก็คือเพลิน

ผมเลยอยากสรุปเพียงว่า สงสัยปีนี้จะไม่ถูกเส้นกับผม เลยดูแล้วออกแนวเฉย ไม่ชวนติดตามเท่าปีก่อนๆ แต่หากใครติดตามมาได้ตั้ง 3 ปี ก็อยากให้ลองติดตามกันต่อครับ จริงๆ ปมมันก็ไม่เลวนะ แต่ความสนุกและการเล่าเรื่องมันไม่จับใจเท่าปีแรกๆ จริงๆ

แต่ก็เหมือนทุกครั้งครับว่าผมเขียนรีวิวเพื่อบอกสิ่งที่คิด และเขียนให้อ่าน แต่ไม่ได้เขียนให้เชื่อ ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบเชื่อครับ ใครเป็นแฟน Haven ก็ลองตามดูกันก่อน แล้วค่อยว่ากันครับ
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
H003

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิว Jack Ryan: Shadow Recruit (2014) แจ็ค ไรอัน สายลับไร้เงา

1804 0

ออกตัวก่อนครับว่าชอบแจ็ค ไรอันมาก ดูหนังครบทุกภาค อ่านนิยายครบทุกเล่ม ซึ่งเรื่องราวของแจ็ค ไรอันนั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัวนะครับ มันจะไม่เน้นแอ็กชันแบบเจมส์ บอนด์ แต่จะออกแนวกรองข่าว วิเคราะห์ข้อมูล ตีความการกระทำของบุคคลสำคัญในประเทศต่างๆ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว Most Likely to Die (2015)

2576 0

https://www.youtube.com/watch?v=Wt-gMz2yO5o ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด หนังสือรุ่นของนักเรียนฝรั่งบางครั้งเขาจะมีการแซวกันใต้รูป หรือไม่ก็เขียนกึ่งๆ ทำนายว่า ใครน่าจะโตขึ้นไปเป็นอะไร ซึ่งก็มักใช้คำว่า Most Likely นี่แหละครับ ประมาณว่า “เป็นไปได้ว่าจะเป็น…” อะไรทำนองนั้น ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว Automata (2014) ล่าจักรกล ยึดอนาคต

2017 0

Autómata เป็นหนังไซไฟโลกอนาคตครับ พล็อตชวนให้นึกถึงหนังอย่าง I, Robot แต่มันจะไม่อลังการแบบนั้นครับ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด เนื้อเรื่องก็ว่าด้วย ฌาค วาแคน (Antonio Banderas) เจ้าหน้าที่บริษัทหุ่นยนต์ที่ต้องตามสืบเงื่อนงำของพวกหุ่นยนต์ที่เริ่มมีความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง และมีแววว่าจะก่อการปฏิวัติ จนอาจก่อให้เกิดหายนะกับมนุษย์ได้ อารมณ์หนังก็ออกมาสไตล์เกรดบีที่ดูดีแบบเกรดเอครับ ฉากหลังคือโลกอนาคตที่แห้งแล้ง สิ่งแวดล้อมก็เสื่อมโทรมอันเนื่องจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งก็ชวนให้นึกถึง Cyborg และ Nemesis อยู่เหมือนกัน ในขณะที่พล็อตก็เน้นการสืบครับ เน้นการสนทนาสะท้อนสาระไม่ว่าจะสะท้อนพฤติกรรมของมนุษย์ที่ค่อยๆ นำพาตัวเองไปสู่หายนะ (อย่างการใช้ทรัพยากรแบบไม่คิด โลกก็เลยแห้งแล้งเสื่อมลง เช่นนี้เป็นต้น) แต่หากพูดถึงความน่าติดตามแล้ว หนังยังไม่น่าติดตามขนาดนั้นครับ คือดูได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษอะไร ส่วนประเด็นสาระที่ว่านั้น หากใครดูหนังไซไฟที่มีหุ่นยนต์มาเยอะๆ ก็อาจไม่รู้สึกอะไรนัก