รีวิว A Novel Romance (2015)

A Novel Romance หนังรักโรแมนติกหวานๆ สไตล์ Hallmark ครับ กับเรื่องของเลียม แบรดลี่ย์ (Dylan Bruce) นักเขียนนิยายขายดีเจ้าของนามปากกา เกเบรียล ออกัสท์ที่กำลังถึงทางตันครับ เขาเขียนงานไม่ออก และเขารู้สึกได้เลยว่างานชิ้นหลังๆ ของเขามันขาดบางสิ่งไป จนมีคนแนะนำให้เขาไปพักตากอากาศ เขาเลยเดินทางไปเปลี่ยนหย่อนใจในพอร์ทแลนด์
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
ระหว่างการเดินทางเขาได้เจอกับโซฟี (Amy Acker) หญิงสาวที่อ่านงานของเขาเหมือนกัน เลียมชอบเธอในทันทีครับ และเธอก็สนใจเขาเช่นกัน ทว่าเธอไม่รู้ว่าเลียมคือเกเบรียล นักเขียนชื่อดัง
แล้วสายใยรักดั่งนิยายก็เริ่มต้นที่ตรงนั้นครับ
หนังจาก Hallmark มักจะมีดีตรงบรรยากาศครับ พวกบ้านในชนบท โลเกชั่นสวยๆ ที่อาจไม่แปลกตามากมาย แต่ได้อารมณ์เหมาะสมกับฉากนั้น เช่นถ้าฉากนั้นต้องได้อารมณ์สบายๆ เราก็จะได้เห็นสถานที่โปร่งๆ รู้สึกได้ถึงลมถ่ายเทและแสงแดดรำไร หรือฉากไหนจะให้พระนางโรมานซ์กันก็จะมีโทนอบอุ่น มีแสงเทียนหรือแสงไฟเล็กๆ สร้างความน่ารักให้กับโมเมนท์นั้นๆ
เรียกว่าฉากสามารถเสริมอารมณ์ให้หนังได้อย่างดีครับ ส่วนตัวหนังก็จะดูได้เรื่อยๆ ไม่ได้หวานมากมาย และบทครั้งบทอาจไม่ได้โดดเด่นจนถึงขั้น “ห้ามพลาด” แต่ยังไงหนังก็จะดูได้เรื่อยๆ มีแง่คิดแห่งรักสอดแทรก แล้วก็จบแบบแฮปปี้ตามสูตร
พระนางก็เล่นได้น่ารักดีครับ ส่วนดาราสมทบในเรื่องอย่าง Charles S. Dutton (Alien 3) กับ Camille Mitchell (ซีรี่ส์ Smallville) ก็ช่วยเสริมความอบอุ่นน่ารักให้หนังได้เป็นอย่างดี อันนี้ก็เป็นสูตรประจำของ Hallmark เหมือนกันครับ บทสมทบก็ต้องส่งให้บทพระนางดูเหมาะกัน บางครั้งเวลาพระ-นางไม่เข้าใจกัน ก็ได้ตัวละครเหล่านี้นี่แหละ คอยอุ้มสม คอยให้คำปรึกษาจนทั้งสองตกร่องปล่องชิ้นกัน
จุดหนึ่งที่ทำให้ผมชอบหนังรักๆ ของ Hallmark ชอบตามดูอยู่เรื่อยๆ ก็คือหนังน่ารักน่ะครับ ตัวละครส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ มีเหตุผล ไม่ค่อยพบเจอตัวละครอิจฉาสักเท่าไร หรือต่อให้อิจฉาก็ยังมีลิมิต ยังพอน่าเห็นใจ ยังมีทราบที่มาที่ไปบ้างว่าเพราะอะไรเขาหรือเธอถึงต้องอิจฉา ดังนั้นระหว่างดูเราเลยจะได้เห็นมิติของจิตใจคน เข้าใจคนหลากแบบมากกว่า (ว่าง่ายๆ คือไม่ค่อยรำคาญตัวละครน่ะครับ นานทีๆ 555)
สรุปว่าเป็นหนังรักหวานๆ ที่ดูได้เรื่อยๆ ครับ
คะแนนความชอบ 6.5/10 ครับ
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว (แบบไม่สปอยล์) Midnight in Paris (2011) คืนบ่มรักที่ปารีส
2280 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ผมหลงเสน่ห์หนังเรื่องนี้เข้าอย่างจังครับ ปกติผมชอบผลงานของ ลุง Woody Allen อยู่แล้วน่ะนะครับ หนังโดยมากของลุงเขาก็จะเป็นสไตล์ “ขำคิด สะกิดชีวิต” มีจุดเด่นในการจับเรื่องชีวิตประจำวันมาบอกเล่าเชิงเสียดสีหยิกแกมหยอก ผสมอารมณ์ขันและแง่คิดเหยาะลงไปให้กลมกล่อมดูเพลินยิ่งขึ้น ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว The Green Inferno (2013) หวีดสุดนรก
2604 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด เรื่องนี้ Eli Roth ทำเพื่อคารวะหนังแนว “เปรตเดินดิน กินเนื้อคน” ครับ ดังนั้นผลที่ได้มันเลยแหวะเต็มที่ชนิดที่คอหนังแนวนี้น่าจะโอเค แต่ถ้าใครรับไม่ได้ก็บอกแต่เนิ่นๆ เลยครับว่าอย่าดูดีกว่า เดี๋ยวจะเครียดเกร็งและพาลอ้วกได้ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Automata (2014) ล่าจักรกล ยึดอนาคต
2039 0Autómata เป็นหนังไซไฟโลกอนาคตครับ พล็อตชวนให้นึกถึงหนังอย่าง I, Robot แต่มันจะไม่อลังการแบบนั้นครับ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด เนื้อเรื่องก็ว่าด้วย ฌาค วาแคน (Antonio Banderas) เจ้าหน้าที่บริษัทหุ่นยนต์ที่ต้องตามสืบเงื่อนงำของพวกหุ่นยนต์ที่เริ่มมีความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง และมีแววว่าจะก่อการปฏิวัติ จนอาจก่อให้เกิดหายนะกับมนุษย์ได้ อารมณ์หนังก็ออกมาสไตล์เกรดบีที่ดูดีแบบเกรดเอครับ ฉากหลังคือโลกอนาคตที่แห้งแล้ง สิ่งแวดล้อมก็เสื่อมโทรมอันเนื่องจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งก็ชวนให้นึกถึง Cyborg และ Nemesis อยู่เหมือนกัน ในขณะที่พล็อตก็เน้นการสืบครับ เน้นการสนทนาสะท้อนสาระไม่ว่าจะสะท้อนพฤติกรรมของมนุษย์ที่ค่อยๆ นำพาตัวเองไปสู่หายนะ (อย่างการใช้ทรัพยากรแบบไม่คิด โลกก็เลยแห้งแล้งเสื่อมลง เช่นนี้เป็นต้น) แต่หากพูดถึงความน่าติดตามแล้ว หนังยังไม่น่าติดตามขนาดนั้นครับ คือดูได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษอะไร ส่วนประเด็นสาระที่ว่านั้น หากใครดูหนังไซไฟที่มีหุ่นยนต์มาเยอะๆ ก็อาจไม่รู้สึกอะไรนัก