หนังปล้นเบาสมองแบบที่ทำให้นึกถึง Ocean’s Eleven และ Tower Heist ครับ เจุดต่างก็คือเหล่าตัวเอกที่มาทำการปล้นนั้น ไม่ใช่คนหนุ่ม แต่คือเหล่าผู้เฒ่าวัยดึกที่สังขารเริ่มจะไม่อำนวยแล้ว

เรื่องเริ่มต้นเมื่อ โจ (Michael Caine) ผู้เฒ่าที่ต้องดูแลลูกและหลานกำลังจะต้องเสียบ้านให้กับธนาคารเนื่องจากไม่มีเงินชำระหนี้ แล้วมิหนำซ้ำโรงงานที่เขาทำงานให้มานานก็ยังจะชักดาบเงินที่เขาพึงได้อีก

เมื่อชีวิตมาถึงทางตัน โจและเพื่อนอีก 2 คนอันได้แก่ วิลลี่ (Morgan Freeman) และ อัลเบิร์ต (Alan Arkin) เลยวางแผนปล้นธนาคารซะเลย ซึ่งเราก็ต้องมาลุ้นกันล่ะครับว่าพวกเขาจะปล้นไหวไหม และสมมติถ้าลงมือปล้นไปแล้ว ชีวิตพวกเขาจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง

การดูหนังแบบนี้มันก็ก่อให้เกิดความย้อนแย้งในใจอยู่เหมือนกันนะครับ เพราะเราก็เห็นอยู่ว่ามันคือเรื่องราวการปล้น มันคือการทำผิดกฎหมาย และบทลงโทษของคนทำผิดก็คือการโดนจับ แต่ทว่าใจลึกๆ เราก็ยังอยากเอาใจช่วยพวกเขาให้ปล้นสำเร็จ และหนีรอดคุกตารางไปให้ได้

ถ้าถามว่าทำไมเราถึงอยากเอาใจช่วย ก็คงบอกได้ว่าบทหนังชี้นำให้เราเห็นใจ 3 ผู้เฒ่าของเราน่ะครับ พวกเขาก็เป็นคนธรรมดาที่ทำมาหากินอย่างซื่อสัตย์ แต่พวกเขากลับใกล้ที่จะต้องหมดตัวอันเนื่องมาจากธนาคารและนายจ้าง

โอเคครับ ธนาคารและนายจ้างทำถูกต้องตามกฎหมาย (หรืออย่างน้อยพวกเขาก็ทำให้มันถูกต้องได้ หากต้องการ) อย่างการที่โจไปกู้โดยเอาบ้านค้ำ สัญญาก็ระบุชัดว่าหากไม่มีเงินจ่ายก็ต้องโดนยึด อีกทั้งดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้นตามลำดับแบบ “ถูกต้องตามกฎหมาย” อีกเช่นกัน

หรือการที่นายจ้างของโจจะเลี่ยงไม่จ่ายบำนาญ พวกเขาก็สามารถสรรหาเหตุผลมาได้เสมอ หรือต่อให้มีคนฟ้องร้องคัดค้านแค่ไหนก็เถอะ แต่พวกนายจ้างก็ยังเอาตัวรอดได้ ไม่ว่าจะเตะถ่วงคดีในศาล ประวิงเวลาไปเรื่อยๆ หรือไม่อย่างมากถึงถึงที่สุดก็เจรจาต่อรองของจ่ายไม่เต็ม… มันมีแบบนี้จริงๆ นะครับ

จุดที่น่าอนาถก็คือ พวกโจไม่มีเงินจ่ายธนาคารพวกเขาก็จะโดนยึด ซึ่งในฐานะลูกหนี้ “พวกเขาทำอะไรไม่ได้” แต่ขณะเดียวกันพวกนายจ้างที่จะไม่จ่ายเงินให้เขา มันก็กลายเป็นว่า จริงๆ เขาคือเจ้าหนี้นะ แต่เขาก็ยัง “ทำอะไรไม่ได้” อยู่ดี

มันคือความเหลื่อมล้ำน่ะครับ กฎกติกาบางอย่างมันดูเหมือนจะชัดเจนและถูกตามครรลองนะ แต่ถ้ามาดูจริงๆ มันก็เอาเปรียบคนรากหญ้า + ส่งเสริมวงจรเงินตราให้ไหลเข้ากระเป๋าคนบางกลุ่มจริงๆ นั่นแหละ… คงเพราะแบบนี้เราๆ เลยอดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วยพวกเขา

ตัวหนังจัดว่าดูได้เพลินๆ ครับ มันอาจไม่ได้สนุกเป็นล้นพ้น แต่ก็จัดว่าโอเคดี เบาสมอง มีอารมณ์ขัน แต่อยากให้ทำใจหน่อยในส่วนของการปล้นเพราะอะไรๆ มันจะดูง่ายเว่อร์จนเกินไป มันง่ายจนเหลือเชื่อน่ะครับ แต่ก็เข้าใจแหละว่าหนังเจตนาทำออกมาสนุกสนาน ไม่ได้ทำออกมาเน้นความจริงแบบ Heat

3 ดาราลายครามคือพลังสำคัญของหนังครับ แค่ดูพวกเขาก็โคตรคุ้มแล้วล่ะ แล้วยังได้เจอกับ Christopher Lloyd ในบทสมทบ (ที่ดูอายุมากขึ้นเยอะ) และ Ann-Margret นางเอกหนัง Viva Las Vegas ของ Elvis ที่แม้จะดูอายุมาก แต่ความสวยและเสน่ห์บางอย่างก็ยังคงอยู่ครับ

โดยรวมแล้วหนังทำออกมาได้สนุกพอสมควรเลยครับ ดาราดี เดินเรื่องดี บรรยากาศในหนังจะว่าไปก็ดีไม่เลว แต่ต้องทำใจในความง่ายของการปล้นหน่อยเท่านั้นแหละ
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน