มิเชลล์ โรดดิเกซ นักแสดงสาวจาก Fast and Furious รีบออกเคลียร์ประเด็นดราม่าที่เพิ่งก่อว่า งานนี้ไม่มี วิน ดีเซล เข้ามาเกี่ยว

หลังจากก่อดราม่าหนัก ๆ กันไปเมื่อไม่กี่วันก่อนของนักแสดงสาว มิเชลล์ โรดริเกซ (Michele Rodriguez) ถึงประเด็นที่ว่าเธออาจยุติบทบาทของตัวเองในหนังเฟรนไชส์ Fast and Furious ด้วยความคิดที่ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อตัวละครหญิง ขนาดเธอเองที่สวมบทบาท เล็ตตี้ โอติช ก็ยังไม่ค่อยจะมีบทบาท และหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปแฟนหนังอาจไม่ได้เห็นเธอใน Fast and Furious 9 เป็นต้นไป

ล่าสุดเรื่องนี้ถึงกับทำให้นักแสดงนำของเรื่องอย่าง วิน ดีเซล (Vin Deisel) อยู่นิ่งไม่ได้ต้องรีบคว้าตัว มิเชลล์ โรดริเกซ ออกมาเคลียร์ให้ชัด ซึ่งเขาก็แสดงเห็นด้วยกับ มิเชลล์ อยู่ไม่น้อยโดยระบุว่า

“ผมรู้สึกภูมิใจกับทุก ๆ ภาคที่ผ่านมา แต่เราต้องพยายามที่จะยกมาตรฐานให้สูงกว่านี้ ความท้าทายคือทำให้หนังสนุกและตื่นเต้น และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าภาคนี้ได้ไปอยู่ในระดับสูงอย่างที่มันควรจะเป็น พวกคุณคือแฟนหนังที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาและเราจะขอบคุณตลอดไป จาก ดอม และ เล็ตตี้”

ทางด้านนักแสดงสาวเองก็ยืนยันเช่นกันว่าเรื่องนี้เธอไม่ได้หมายถึง วิน ดีเซล แต่อย่างใด

“สำหรับ วิน ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ นายเป็นผู้ที่สนับสนุนผู้หญิงแกร่งมาตลอด ฉันรู้สึกซาบซึ้งที่ในสิ่งที่คุณทำตลอดหลายปีที่ผ่านมาและอยากให้รู้ว่า อะไรที่ฉันโพสต์ไปนั้น ฉันไม่ได้หมายถึงคุณ”

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าดราม่าจาก Fast and Furious ครั้งนี้ไม่ได้ทำให้แฟนหนังประหลาดใจอะไรมากนัก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องราวลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นกับ เดอะร็อค ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) เช่นกัน

ตลอดระยะเวลากว่า 18 ปี มิเชลล์ โรดรเกซ ถือเป็นนักแสดงหญิงที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์ชุดนี้มากถึง 6 ภาค จาก 8 ภาค และบทบาท เล็ตตี้ ที่เธอได้รับก็เป็นตัวละครที่มีพัฒนาการ มีอิทธิพลและมีอิสระมากที่สุดในหนังก็ว่าได้ ขณะที่ตัวละครหญิงอื่นกลับถูกลดความสำคัญไม่ก็ฆ่าให้ตาย ไม่ว่าจะเป็น บทบาทของ จอร์ดาน่า บรูว์สเตอร์ (Jordana Brewster) ที่รับบทเป็น มีอา ทอเร็ตโต้ (น้องสาวของ ดอมินิก ทอเร็ตโต้) ก็ถูกตัดออกหลังจากการเสียชีวิตของ พอล วอล์คเกอร์ (Paul Walker) หรือแม้แต่ ชาร์ลิซ เธอรอน (Charlize Theron) ตัวร้ายใน The Fate of the Furious ก็มีบทในหนังน้อยมาก เมื่อเทียบกับนักแสดงชายที่เป็นลูกน้องของเธอเสียอีก แม้ว่า เอฟ. แกรี่ เกรย์ (F. Gary Gray) ผู้กำกับ The Fate of the Furious จะเคยบอกว่าเขาให้ความสำคัญกับผู้หญิง ก็ต้องดูกันต่อไปว่าข้อเสนอของ มิเชลล์ โรดรเกซ จะได้รับการตอบรับเช่นไร

ไม่ว่าเส้นทางต่อไปของ Fast and Furious จะเป็นอย่างไร แต่แน่นอนแล้วว่าเราจะได้ชมภาคต่อของหนังชุดนี้ไปอีกอย่างน้อย 2 ภาค จากกำหนดคิวฉายที่ทาง Universal Pictures เคยประกาศไว้คือ Fast & Furious 9 วันที่ 19 เมษายน 2019 และ Fast & Furious 10 วันที่ 2 เมษายน 2021

ที่มา : kapook.com

เรียบเรียงโดย : thai