รีวิว Room (2015) รูม ขังใจไม่ยอมไกลกัน (มีสปอยล์ ตอนจบ)

รีวิว Room (2015) รูม ขังใจไม่ยอมไกลกัน (มีสปอยล์ ตอนจบ)

พอดูจนจบผมรู้สึกอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือรู้สึกชอบรสมือของผู้กำกับ Abrahamson ที่เล่าเรื่องได้ถึงอารมณ์ อีกทั้งยังเอาล่อเอาเถิดกับอารมณ์คนดู ประมาณว่าครึ่งแรกของหนังมันได้วางเงื่อนไขทางอารมณ์ให้เรา “กลัว” ในหลายๆ สิ่ง และทำให้มุมมองของเราห่างไกลจากคำว่า “โลกสวย” ไปพอสมควร ว่าง่ายๆ คือหนังแอบทำให้เราเกิดอาการมองโลกในแง่ร้ายได้ในระดับหนึ่ง

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

อย่างที่ 2 ที่รู้สึกคือ รู้สึกดีใจที่ดูหนังจนจบครับ เพราะถ้าไม่ดูให้จบนี่คาใจตายเลยนะ และที่สำคัญคือครึ่งหลังมันเหมือนเป็นการเยียวยาอารมณ์หดหู่เมื่อตอนต้นให้ฟื้นคืนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้จะไม่ถึงกับทำให้เราแฮ้ปปี้ลัลล้าก็เถอะ แต่มันก็ทำให้เรายิ้มออกมาได้ ทำให้เราพร้อมยืนหยัดเผชิญโลกต่อไปได้ ไม่ว่าเราจะเจอเรื่องร้ายหรือดี ไม่ว่าเราจะเจอโลกสวยหรือทรามก็เถอะ

จริงๆ เราอาจรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันโลกไม่สวยน่ะนะครับ แต่หากมองดีๆ ก็จะพบว่ามันแค่นำเอาด้านลบที่มีอยู่จริงในโลกมานำเสนอเท่านั้นแหละ และเอาเข้าจริงแล้วโลกนี้ก็ไม่ได้สดสวยหรือต่ำทรามไปเสียทั้งหมด ชีวิตคนก็เจอได้ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย ซึ่งจุดสำคัญก็คือเราจะจัดการกับมันยังไง เราจะรับมือมันได้ไหม

อีกทั้งเราต้องยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ในทุกขณะของชีวิต มันไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน อะไรที่ขึ้นได้มันก็ลงได้ อะไรที่มีได้ก็หมดได้ มันคือสัจธรรมครับ และเรื่องราวที่แม่ลูกคู่นี้เจอก็ทำให้คนดูได้เข้าใจสัจธรรมที่ว่าชัดเจนขึ้น

Brie Larson คู่ควรกับออสการ์ที่ได้ไปครับ เธอถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ครึ่งแรกนี่สัมผัสถึงความ “แทบไม่เป็นผู้เป็นคน” ของเธอได้แบบเต็มๆ ประมาณว่าโดนขังมานาน 7 ปี จนเธอหมดทั้งความหวัง ความรู้สึก ความสุข จนเธอแทบจะกลายเป็นผีตายซากไปแล้ว

แต่ในเรื่องร้ายก็นับว่ายังมีเรื่องดี เพราะส่วนหนึ่งที่เธอยังพอมีสติอยู่บ้างก็เพราะเธอมีลูกที่จริงๆ ก็น่ารักและฉลาดทีเดียว แม้จะมีวาระหงุดหงิดหรือก้าวร้าวบ้าง แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะอยู่ในที่แบบนั้น อีกทั้งผู้เป็นแม่เองก็ปฏิบัติตัวในฐานะแม่ได้อย่างลำบากท่ามกลางสภาวะที่กดดันอารมณ์เธออย่างร้ายกาจ ดังนั้นการที่สุดท้ายแล้วเธอและลูกยังสามารถออกมาใช้ชีวิตข้างนอกได้ และตัวตนของเธอกับลูกยังไม่สูญเสียไปเท่าไรนัก ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ และ Tremblay เองก็รับบทแจ็คได้อย่างดีเยี่ยมด้วยเช่นกัน

ดาราสมทบในเรื่องถือว่าเลือกระดับมือดีมา ไม่ว่าจะ William H. Macy ที่แสดงความสับสนในใจออกมาได้อย่างน่าทึ่ง แม้จะมีบทบนจอไม่นานก็ตาม กับ Joan Allen ที่ใช้ความนิ่งผสมกับความเป็นผู้ใหญ่ใจดีเสริมบทของเธอให้มีพลังขึ้นได้เยอะอยู่

สรุปแล้วนี่เป็นหนังที่ครบอารมณ์มากๆ ครับ ทั้งกดดันหดหู่และจบลงด้วยรุ่งอรุณแห่งความหวัง เหมือนฟ้าหลังฝนอะไรประมาณนั้น และที่น่าชื่นชมคืออารมณ์ของหนังมันดูจริงในระดับหนึ่ง คืออาจไม่ถึงขั้นดิบน่ะนะครับ แต่ก็อยู่ในขั้น “จริง” ไม่ดูเป็นหนังเกิน

หนังสอนให้เรารู้จักอดทนครับ เมื่อเราต้องเจอกับวันเลวร้ายหนักๆ เราก็ต้องอดทนรอให้มันผ่านไป พยายามสู้กับมันและพยายามเยียวยาใจที่อ่อนล้าเท่าที่จะทำได้ ผมไม่ปฏิเสธครับว่าบางคนอาจเป็นประเภทมหาซวย ต้องเจอมรสุมไปจนตลอดชีวิตแบบไม่มีทางได้เจอวันดีๆ แต่ประเด็นคือเราไม่รู้หรอกครับว่าชีวิตเรามันจะแย่ขนาดนั้นจริงๆ หรือเปล่า

หากชีวิตเรามันไม่ได้แย่ขนาดนั้นแต่เราดันยอมแพ้ซะก่อนล่ะ? หากจริงๆ เรายังมีโอกาสรออยู่ขอเพียงเราเดินต่อไป แต่เราดันไม่เดินต่อล่ะ? แบบนั้นมันย่อมเป็นเรื่องที่น่าเสียดายแบบสุดๆ ทีเดียว… เดินไปแล้วไม่เจอทาง ก็ยังดีกว่าใกล้จะเจอหนทางแต่กลับหยุดเดินน่ะครับ

อีกอย่างที่ถือเป็นประเด็นที่ชวนให้คิดมากๆ (โดยเฉพาะกับสังคมในทุกวันนี้) ก็คือเหตุผลที่ทำให้นางเอกต้องโดนแบบนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะเธอได้รับการปลูกฝังให้เป็นคนดีและมีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น เธอเลยโดนผู้ชายคนนั้นหลอกไปทำมิดีมิร้ายและขังเป็นจำเลยรักอยู่ 7 ปี จนมีฉากหนึ่งที่เธอบอกกับแม่ว่า ก็เพราะถูกสอนให้เป็นคนดีและเห็นใจคนอื่นนี่แหละ เธอเลยต้องเจอกับเรื่องนรกแบบนี้

จุดนี้ก็ทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องไตร่ตรองเหมือนกันครับ ในยุคสมัยแบบนี้ที่เหมือนว่าคนจะอยู่กันยากมากขึ้น เราจะสอนลูกให้เป็นคนดีตามนิยามในตำราแบบสุดโต่งก็ไม่เหมาะ เพราะหากเราดีเกินก็อาจตกเป็นเหยื่อของคนอื่นได้ ถ้าจะสอนก็ต้องสอนแบบกลางๆ หรือจะสอนให้ลูกมีน้ำใจก็ได้ แต่ก็ต้องคานน้ำหนักด้วยการสอนให้ลูกรู้จักระวังตัว ไม่ให้คนอื่นมาเอาเปรียบหรือทำร้ายได้

หนังชีวิตเรื่องนี้มีหลายประเด็นให้เรามองครับ และแต่ละประเด็นก็เหมาะแก่การเอามาใช้มองโลกในปัจจุบัน… ที่หน้าตาของโลกใบนี้ชักจะทำให้รู้สึกว่า “ไม่คุ้น” สำหรับคนรุ่นผมมากขึ้นทุกขณะ
คะแนนความชอบ 8.5/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิวซีรี่ส์ Haven Season 1 (2010 – 2011) เฮเว่น เมืองอาถรรพ์ ปี 1

1844 0

จัดว่าดูได้เพลินดีครับสำหรับ Haven ปี 1 ซีรี่ส์แนวสืบสวนลึกลับเหนือธรรมชาติที่ดัดแปลงจาก The Colorado Kid ของ Stephen King ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด เรื่องของเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ออเดรย์ ปาร์กเกอร์ (Emily Rose) ที่ตามรอยคนร้ายหลบหนีมายังเมืองเฮเว่น และที่แห่งนั้นเธอก็ต้องพบกับเรื่องประหลาดสารพัด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว จูออน ผีดุ กำเนิดมรณะ (2014) Ju-on: The Beginning of the End

1989 0

การกลับมาอีกครั้งของผีแป้งเด็กตัวลูกและ ผีเลื้อยตัวแม่ ที่พร้อมจะหลอกหลอนและฆ่าใครก็ตามที่มาข้องเกี่ยวกับบ้านอาถรรพ์ที่พวกเขา ตาย โดยพร้อมบริการตามฆ่าทั้งในและนอกสถานที่ 5555 ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิวซีรี่ส์ American Horror Story Season 1 (บ้านลับวิญญาณหลอน ปี 1)

2427 0

ได้ยินชื่อซีรี่ส์ American Horror Story มานานครับ แว่บแรกที่คิดเลยก็คือมันน่าจะเข้าทางนะ เพราะเป็นซีรี่ส์แนวสยองลึกลับที่จับเอาตำนานสยองของอเมริกันมายำรวมกัน โดยแต่ละปีก็จะเป็นเรื่องราวใหม่ แล้วก็ใช้ดาราชุดเดิมๆ กลับมาแสดง (แต่ก็จะเล่นเป็นบทใหม่ไปด้วย) ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด