รีวิวซีรี่ส์ Scream ปี 1 (2015)

แม้หนัง Scream ต้นฉบับจะถือว่าเป็นต้นตำรับของหนังเชือดยุคใหม่ แต่กับ Scream ฉบับซีรี่ส์ แล้ว ก็ต้องยอมรับครับว่ามันมีซีรี่ส์สไตล์คล้ายๆ กัน (ว่าด้วยวัยรุ่นตามสืบคดีฆาตกรรม) ออกมาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะ Veronica Mars, Pretty Little Liars และ How to Get Away with Murder
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
แต่กระนั้น Scream ก็ถือว่าโอเคครับ ดูได้เรื่อยๆ มีการทิ้งปมและเขียนบทให้น่าติดตามพอประมาณ แต่ก็ต้องยอมรับล่ะครับว่าบางจังหวะมันก็ช้าไปหน่อย พวกความกระชับอาจไม่มากเท่าไรในตอนต้นๆ และถ้าพูดถึงพล็อตแล้วล่ะก็ เอาเข้าจริงๆ มันก็สามารถเขียนให้จบได้ภายใน 2 ชั่วโมงแบบฉบับหนังใหญ่นั่นแหละ
ฉบับนี้ว่าด้วยคดีฆาตกรรมในเมืองเลควู้ด แน่นอนว่าเหยื่อรายแรกต้องเป็นดารามีชื่อพอสมควรครับ เรียกว่ากลายเป็นธรรมเนียมสำหรับหนังเรื่องนี้ไปแล้ว ที่ต้องเอาดาราที่ดังสุดมาฆ่าเป็นศพแรกเสมอ
จากนั้นก็จะแนะนำให้เรารู้จักกับตัวเอกอย่าง เอ็มม่า ดูวัลล์ (Willa Fitzgerald) สาวน้อยที่เปรียบได้กับบทซิดนี่ย์ของ Neve Campbell ในภาคต้นฉบับซึ่งเธอกับเพื่อนๆ ก็ต้องมาเจอกับฆาตกรลึกลับที่ไล่ตามล่าคนในเมือง
และพอพวกเธอตามสืบ ก็ยิ่งพบว่าเจ้าฆาตกรรายนี้ดูจะใกล้ตัวพวกเขายังไงก็ไม่รู้
ในแง่ความพยายามก็ถือว่าหนังพยายามได้ไม่เลวครับ อย่างน้อยทั้ง 10 ตอนของปีแรกนี่ก็ไม่ได้น่าเบื่อนะ ดูได้เพลินๆ น่าติดตามเป็นพักๆ แล้วก็มีปมมาหักมุมไปมาอยู่พอสมควร (แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าเราจะไม่มีวันรู้ว่าใครคือฆาตกร จนกว่าตอนจบของซีซั่นจะมาถึง) ในแง่การสืบก็ถือไม่เลวครับ หลายช่วงเหมือนกันที่ทำได้ดี ไม่ว่าจะการเอาตำนานของเมืองมาผูกกับปูมหลังของตัวละครบางตัว ที่อาจเกี่ยวกับการฆาตกรรมครั้งนี้
อย่างน้อยการที่มันมีแค่ 10 ตอนก็ทำให้อะไรๆ ไม่อืดจนเกินไปน่ะครับ พอดูได้เรื่อยๆ และอาจเพราะผมไม่ตั้งความหวังอะไรนัก เลยไม่รู้สึกผิดหวังอะไร จริงๆ มันก็ถือว่าพอเหมาะแล้วล่ะครับสำหรับซีรี่ส์แนวสืบสวน
ผมชอบในหลายช่วงอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะปมที่เนื่องไปถึงฆาตกรในตำนานเรื่องเล่าของเมือง หรือการที่บางตัวละครที่คนดูรู้สึกผูกพันต้องมาตายไป อะไรพวกนี้ทำให้ซีรี่ส์ Scream ออกรสพอตัว แม้จะไม่ใหม่สด แต่ก็สนุกดีครับ
ก็รอดูปีหน้ากันต่อไปครับว่าเรื่องมันจะเป็นยังไงต่อ (สงสัยฆาตกรตัวต่อไปก็คงเนื่องกับปีแรกอีกนั่นแหละ ตามสูตรๆ 555)
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว The Bye Bye Man (2017) กู๊ดบาย ตายไม่ดี
2027 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด เป็นหนังสยองขวัญที่เอาสูตรเดิมมาปรุงใหม่ได้ไม่เลวครับ คือมันอาจจะไม่ได้เด็ดหรือมีอะไรแปลกใหม่มากมายนะ แต่ก็ดูได้เพลินๆ แบบไม่ต้องคิดมากครับ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Going in Style (2017) สามเก๋าปล้นเขย่าเมือง
1938 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด หนังปล้นเบาสมองแบบที่ทำให้นึกถึง Ocean’s Eleven และ Tower Heist ครับ เจุดต่างก็คือเหล่าตัวเอกที่มาทำการปล้นนั้น ไม่ใช่คนหนุ่ม แต่คือเหล่าผู้เฒ่าวัยดึกที่สังขารเริ่มจะไม่อำนวยแล้ว ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Pitch Perfect 2 (2015) ชมรมเสียงใส ถือไมค์ตามฝัน 2
1838 0ภาคแรกทำผมประทับใจไว้เยอะครับ ดังนั้นก่อนดู Pitch Perfect 2 ผมก็แอบคาดหวังเป็นธรรมดา ไหนจะโกยเงินถล่มทลายซะขนาดนั้น (แต่โดยส่วนตัวคิดว่าที่ภาคนี้ทำเงินอย่างใหญ่ ก็เพราะบุญเก่าที่ภาคแรกสะสมไว้ส่วนหนึ่ง) ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ภาคนี้เล่าถึงเหตุการณ์ 3 ปีให้หลัง เมื่อทีมเบลล่าเจอวิกฤตการณ์สุดอับอายแบบไม่คาดฝัน ทำให้อนาคตของทีมแขวนอยู่บนเส้นด้ายครับ ประมาณว่าถ้าทีมไม่สามารถกู้ชื่อได้ล่ะก็ อนาคตของชาวเบลล่าก็อาจดับกันไปเลย และการกู้ชื่อที่ทุกคนต้องร่วมมือกันทำให้ได้ คือการคว้าชัยชนะในงานแข่งขันอะแคปเปลลาระดับโลก ซึ่งก็แน่นอนล่ะครับว่ามันไม่ง่าย ต้องอาศัยทั้งพลังกายและพลังใจอย่างมหาศาลทีเดียว ภาคนี้ก็ยังดูสนุกอยู่ครับ แต่ผมก็ยังชอบภาคแรกมากกว่าอยู่ดี และสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกระหว่างดูก็คือ “ดูแล้วได้อารมณ์เหมือนตอนดู Iron Man 2 เลยแฮะ” Iron Man 2 เป็นหนังที่ดูสนุกครับ แต่หนังมีรายละเอียดเยอะมาก และผลที่ได้คือพอมันรายละเอียดเยอะ หนังก็จับได้ไม่หมด