นี่ถือเป็นหนังแนวแอ็กชันสายลับแบบที่เราเคยพบเจอกันมานานพอสมควรแล้วครับ ทางเดียวกับ Jason Bourne แล้วก็ Salt เลย ซึ่งการมาของหนังเรื่องนี้ในตอนนี้ก็อาจจะบอกได้ว่า ออกจะช้าไปพอสมควร

พล็อตแนวคุ้นเคยครับ อลิซ (Noomi Rapace) คือเจ้าหน้าที่ที่ต้องหาทางสืบแผนเกี่ยวกับการก่อการร้ายด้วยไวรัส แต่พอสืบไปสืบมาก็พบว่ามันมีอะไรมากกว่าที่คิด และดูเหมือนว่าเธอจะไว้ใจใครในองค์กรไม่ได้เลยด้วย

เป็นแนวคุ้นเคยมากเลยครับ ตัวเอกเป็นคนเก่ง แต่ต้องมาตกอยู่ท่ามกลางแผนร้าย มีคนหักหลังกันไปมา ทุกคนไว้ใจไม่ได้ ซึ่งตัวเอกก็ต้องสืบไปๆ จนถึงตอนจบน่ะครับถึงจะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ก่อนจะต้องมาหาทางขัดขวางกันไป

พูดตรงๆ หนังไม่ได้แย่ครับ ถือว่าดูได้เรื่อยๆ สำหรับแนวนี้ เพียงแต่มันไม่ปลกใหม่อะไร หลายอย่างเดาทางได้ ยิ่งใครดูแนวนี้มาเยอๆ ก็คงเดาได้ไม่ยากว่าใครคือจอมบงการตัวจริง (ดีไม่ดีตอนฟังเฉลยว่าทำไมถึงทำ ก็อาจจะร้องอ๋อด้วย เพราะเหตุผลนี้ได้ยินบ่อยอยู่)

ดังนั้นในเบื้องต้นหากใครยังใหม่กับหนังแนวนี้ น่าจะดูสนุกเพลินอยู่ครับ แต่หากผ่านหนังอย่าง Bourne มาก็อาจรู้สึกเรื่อยๆ แต่ก็อย่างที่บอกน่ะครับว่าอย่างน้อยหนังก็ไม่ได้แย่ มันดูได้เพลินๆ ตามมาตรฐาน

ทีมดาราจริงๆ ก็ระดับมืออาชีพล่ะครับ Rapace เล่นได้อย่างน่าพอใจ เพียงแต่คาแรคเตอร์อาจยังไม่เด่นอะไรมาก ยอมรับว่าพอถึงจุดนี้ผมแอบเอาใจช่วยเธอนะ เพราะหลังจากได้แจ้งเกิดในบ้านตัวเองกับ The Girl with the Dragon Tattoo ต้นฉบับแล้ว พอย้ายมาเล่นในฮอลลีวู้ัดก็ไม่ได้บทที่เด่นสักเท่าไร

ดารารายอื่นก็ถือว่าเป็นมือดี ไม่ว่าจะ Orlando Bloom, Toni Collette, Michael Douglas, John Malkovich จนบอกได้ว่าถ้าชื่อพวกเขามารวมกันในหนังเมื่อ 15 – 20 ปีก่อนก็น่าจะยังโอเคน่ะครับ แต่ตอนนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึง

ผมออกจะชอบบทของ Douglas นะ พี่แกเล่นบทสไตล์นี้ได้ดี แววตาท่าทางถือว่าชวนจดจำ ในขณะที่ Bloom ผมมองว่าพี่แกออกแนวบทรับเชิญนะ (เห็นภาพในโปสเตอร์นึกว่าจะเล่นคู่กับนางเอกซะอีก)

หนังกำกับโดย Michael Apted ผู้กำกับมือเก๋าอีกคนที่เคยทำผลงานน่าจดจำอย่าง Gorillas in the Mist, Coal Miner’s Daughter, Thunderheart และ Amazing Grace มาเรื่องนี้แกก็คุมงานได้ดีล่ะครับ อย่างที่บอกว่าดูได้เรื่อยๆ

เพียงแต่หนังมันเดิมๆ ครับ และ Apted เป็นผู้กำกับที่ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากอยู่แล้วด้วย เลยทำให้ความน่าสนใจของหนังไม่เยอะ ยิ่งถ้าพูดถึงแอ็กชันนี่ถือว่าน้อยเลยครับ ความระทึกเร้าใจก็ถือว่ากลางๆ (อยู่ในระดับระทึกได้อีกน่ะครับ)

การเขียนถึงหนังเรื่องนี้ถือว่ายากสำหรับผมนะ เพราะอย่างที่บอกว่าหนังมันไม่ได้แย่ เพียงแต่เมื่อเทียบกับยุคสมัยนี้ ยุคที่โลกมีหนังแอ็กชันจารชนออกมาเยอะแยะและเริ่มจะมีการเล่นท่ายากหลากลีลา หนังสไตล์เดิมๆ แบบนี้จะกลายเป็นหนังธรรมดาสำหรับคนดูส่วนใหญ่ไป

ยิ่งล่าสุดนี่มี Atomic Blonde อีก ยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ ใช่แล้ว นึกๆ ไปเรื่องนี้ก็คล้ายเรื่องนั้นนะ แต่ Blonde มันสวิงสวายกว่ากันเยอะเลย
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน