รีวิว Fast & Furious 8 (2017) เร็ว แรงทะลุนรก 8

รีวิว Fast & Furious 8 (2017) เร็ว แรงทะลุนรก 8

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

ดูตัวอย่างแล้วก็เตรียมใจเข้าไปเสพความเว่อร์วังแบบเต็มขั้นครับ ยิ่งทุนสร้างตั้ง $250 ล้าน มันก็ต้องจัดเต็มแอ็กชันและฉากทำลายล้างแบบระเบิดระเบ้อแน่นอน (พูดถึงรายได้ ตอนนี้ทั่วโลกโกยไปแล้ว $531 ล้าน ถึงจุดคุ้มทุนแล้วครับ ไม่เกินสัปดาห์นี้ก็จะได้งบโฆษณาคืน และเข้าสู่โซนกำไรแน่นอน)

ถามว่าดูสนุกไหม ก็ตอบได้เลยว่าดูเพลินดีครับ หวังอะไรเอาไว้ก็ได้แบบนั้นเลย
สไตล์มันออกแนว Mission: Impossible แบบเต็มตัว มีองค์กรร้ายกับตัวร้ายระดับบิ๊กมาให้ขับเคี่ยว โจทย์ที่ทีม Fast ต้องรับมือกับนับว่าใหญ่ระดับโลกอยู่เหมือนกัน

สารภาพว่าผมแอบฮาตอนมีบทพูดประมาณว่า “หากนายทำภารกิจนี้แล้วโดนจับได้ ทางการจะปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น” คือมันทำให้นึกถึง Mission แบบสุดๆ น่ะครับ ก็เข้าใจว่าหนังคงล้อทั้ง Mission และล้อตัวเองไปในตัว

ภาคนี้ทีม Fast ของเราก็มาทำงานเป็นทีมเพื่อสู้กับเหล่าร้าย แต่หนนี้มีปมประมาณว่า ดอม (Vin Diesel) เกิดแปรพักตร์ไปช่วยงานตัวร้ายอย่างไซเฟอร์ (Charlize Theron) ทำให้คนที่เหลือต้องหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับดอม และพวกเขายังต้องหาทางขวางแผนร้ายของพวกไซเฟอร์อีกด้วย


ในบรรดาหนัง Fast นั้น ผมชอบภาค 5 สุดครับ มันเหมือนเป็นภาคที่ลงตัวพอเหมาะที่สุด หลังจากเป็นหนังแนวแข่งรถ+ตำรวจจับผู้ร้ายใน 3 ภาคแรก แล้วก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสายแอ็กชันในภาค 4 แต่ก็ยังไม่ถึงกับเปลี่ยนสไตล์แบบชัดเจน

จุดเปลี่ยนสำคัญก็คงต้องยกให้ภาค 5 ครับ ที่สามารถผสมลีลาแอ็กชัน+ไล่ล่าด้วยรถ+ปฏิบัติการเป็นทีม เข้าด้วยกันแบบพอดี เหมือนรวมเอา Fast ดั้งเดิมมาผสม Mission และ Ocean’s น่ะครับ เป็นภาคที่ความมันส์และความแรงมาเจอกัน แม้จะไม่ใช่สิ่งที่สดใหม่เต็มร้อย แต่ก็เป็นการยำสูตรได้อร่อยประมาณหนึ่ง และถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับหนังชุด Fast ได้อย่างงดงาม

ส่วนภาค 6 กับ 7 ก็เดินตามสูตรที่ภาค 5 ตั้งต้นไว้ ซึ่งก็ทำออกมาได้ดูสนุกล่ะครับ ภาค 6 จัดว่ามันส์ ส่วนภาค 7 ก็ถือว่าน่าพอใจ (แต่แน่นอนว่ามันอาจไม่สมบูรณ์ ส่วนหนึ่งก็เพราะการจากไปของ Paul Walker) แต่อาจเพราะภาค 5 เป็นหมุดไมล์แรกของสไตล์นี้ เลยทำให้ผมออกจะประทับใจภาค 5 ที่สุดในบรรดา Fast ภาคที่ผ่านๆ มา

ส่วนภาค 8 นี่ก็ต่อยอดกันมา สูตรก็มาแนวเดียวกับภาค 5 แต่เพิ่มความใหญ่ของเรื่องลงไป รวมถึงฉากแอ็กชันที่หนนี้เอารถมาพังเล่นเยอะแยะมากมาย ตัวร้ายก็มีแผนถล่มโลกแบบหนังบอนด์ ดูเอามันส์ได้ตั้งแต่ต้นจนจบครับ

จุดที่ทำให้ผมรู้สึกสนุกคือภาคนี้มีปมมากขึ้นครับ ไม่ว่าจะเรื่องของดอม หรือตัวร้ายจากภาค 7 อย่าง เดคคาร์ด (Jason Statham) ก็มาพร้อมปมที่ชวนให้เราอยากรู้ว่าตกลงอะไรมันเป็นอะไร ซึ่งหลายปมก็เปิดไว้เพื่อสานต่อในภาคหน้า เพราะเขาวางแผนทำไปถึงภาค 10 ครับ และภาคนี้ถือเป็นการเปิดไตรภาคใหม่นั่นเอง (และยังอาจจะมีภาคแยกออกไปอีกด้วย)

ดาราในเรื่องก็เล่นกันได้เข้าขากันแล้วครับ เล่นกันได้ลื่นทั้งฉากบู๊และฉากฮา โดยเฉพาะโรมัน (Tyrese Gibson) ที่สร้างเสียงฮาได้แทบทุกฉาก ส่วนผู้มาใหม่อย่าง Theron ก็เป็นไซเฟอร์ได้อำมหิตดี ดูเจ๊แกมีบารมีจนน่าขนลุกครับ และอีกหนึ่งดาราใหญ่ที่มาสมทบอย่าง Helen Mirren ก็เล่นได้น่าจดจำมากๆ จนควรค่าแก่การคารวะ

ผมชื่นชมความพยายามของทีมงานที่โยงเรื่องราวในภาคนี้ไปสู่ภาคเก่าๆ แต่ก็ยอมรับครับว่าบางอย่างมันอาจขัดทางความรู้สึกหรืออาจยังไม่เนียนเต็มที่บ้าง แต่ก็พยายามคิดว่าทีมงามคงจะหาทางลงที่ดียิ่งขึ้นและหาวิธีอุดรอยรั่วบางอย่างในภาคต่อๆ ไป (โดยเฉพาะเรื่องของเดคคาร์ดที่เชื่อว่าบางคนก็ยังติดใจ”เรื่องเกี่ยวกับฮาน” ที่เขาทำไว้)

โดยรวมแล้วดูเอามันส์ได้เลยครับ ฉากบู๊มาเรื่อยๆ ฉากมันส์มาไม่ยั้ง มีเรื่องมิตรภาพและครอบครัวแทรกเป็นยาดำ แล้วก็มีโครงเรื่องและมีปมผสมลงไปให้หนังดูไม่โล่งโถง และหากมองในแง่ “ความเป็นหนังเปิดไตรภาคใหม่” แล้ว ก็ถือว่าหนังเปิดได้ดีเลยครับ ทำให้อยากตามดูภาคต่อไปว่าเรื่องมันจะไปทางไหน และครอบครัว Fast จะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน


++++++++++++++++++++++
++++ถัดจากนี้มีสปอยล์++++++
++ไม่อยากทราบ อย่าอ่านครับ++
+++++++++++++++++++++++

ไม่นานมีนี้มีการพูดถึงเกี่ยวกับ “ฮาน” ประมาณว่าหลายคนคิดถึงฮาน กระทั่งทีมผู้สร้างเองก็ยังนึกถึงฮานอยู่บ่อยๆ และยังตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ด้วยว่าจะเอาฮานกลับมาไหม

ก็อยากรู้เหมือนกันครับว่าจะเอาฮานกลับมาจริงไหม แต่โดยส่วนตัวผมมองว่าที่หลายคนไม่ชอบ เดคคาร์ด ก็เพราะยังติดตาว่าหมอนี่ฆ่าฮาน ดังนั้นทางเดียวที่จะเอาเดคคาร์ดมาใส่ตระกร้าล้างน้ำ (ในความรู้สึกคนดู) ได้ ก็คงต้องหาทางคืนชีพฮาน แต่จะเป็นแบบนั้นหรือไม่ ก็คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

และสำหรับไซเฟอร์นั้น ผมรู้สึกเกลียดเจ๊แกในระดับพีคตอนสั่งฆ่าเอเลน่าน่ะครับ คือรู้สึกสะเทือนนะ และอยากเห็นจุดจบเจ๊แกเหลือเกิน (เสียดาย ต้องรอภาคต่อๆ ไป)

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิว Home (2014) บ้านนี้ผีจอง

2323 0

Home หรือ At the Devil’s Door ชวนให้นึกถึง Ju-On เอามากๆ เลยครับ เพราะเหตุการณ์หลักมันเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง และใครก็ตามที่มาข้องแวะก็จะโดนดีไปตามๆ กัน ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว The 9th Life of Louis Drax (2016)

1758 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด จริงๆ หนังเรื่องนี้น่าจะแนวผมนะ ประเภทเรื่องลึกลับที่มาพร้อมปริศนาให้เราไขให้เราขบ ประหนึ่งพลิกนิยายแล้วคลายปมไปทีละบททีละหน้า ซึ่งจะว่าไปก็มีออกมาไม่บ่อยครับ ยิ่งที่ทำแล้วเวิร์กนี่ยิ่งมีน้อยเข้าไปใหญ่ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว Naked (2017)

1976 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ไอเดียของหนังเรื่องนี้มันทำให้นึกถึงมุกขำๆ เกี่ยวกับความฝันที่คนฝรั่งชอบเล่ากันน่ะครับ ประมาณว่า “ฉันฝันว่าฉันไปโรงเรียน แล้วจู่ๆ เสื้อผ้าก็หายไป” หรือ “ฉันฝันว่าไปงานแต่งงาน แต่ฉันดันโป๊อยู่” เป็นต้น หนังเรื่องนี้ก็ว่าด้วย ร็อบ (Marlon Wayans) ผู้ชายกลางๆ คนหนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกับ เมแกน (Regina Hall) หญิงที่รักของเขา แต่ลึกๆ เขาก็รู้น่ะครับว่าพ่อของเมแกน (Dennis Haysbert) ก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไรหรอก แล้วในวันแต่งงาน เขาพบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในลิฟท์ และกำลังโป๊อยู่ครับ เขาไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าเขาโป๊ และไปพิธีแต่งงานไม่ทันแน่ๆ กระนั้นเขาก็พยายามไปให้ถึงครับ ไปทั้งที่โป๊ๆ แบบนี้แหละ แต่เรื่องบ้าก็ๆ ก็เกิดซ้ำเมื่อพอถึงจุดหนึ่งแล้วเขากลับพบว่าตัวเองกลับมาที่ลิฟท์ในสภาพโป๊อีกหน… ใช่ครับ