รีวิว Beauty and The Beast (2014) บิวตี้ แอนด์ เดอะ บีสต์ ปาฏิหาริย์รักเทพบุตรอสูร
La belle et la bête หรือ Beauty and The Beast ฉบับล่าสุดที่กำกับโดย Christophe Gans ที่เคยทำ Silent Hill ภาคแรกออกมาอย่างน่าพอใจน่ะนะครับ
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
หนังก็ว่าด้วยเรื่องราวความรักอมตะระหว่างเจ้าชายอสูร (Vincent Cassel) ผู้ต้องคำสาป กับเบลล์ (Léa Seydoux) สาวน้อยผู้เข้มแข็งที่ยอมมาอยู่ในปราสาท เพื่อแลกกับความปลอดภัยของครอบครัวเธอ ตอนแรกๆ เบลล์ก็กลัวครับ และเจ้าชายอสูรก็ร้ายกาจกับเธอมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสองก็เริ่มเปิดใจให้กัน
ฉบับนี้นับว่าน่าสนใจในเรื่องงานออกแบบฉากครับ แต่ละฉากออกแบบได้สวยงามสมกับเป็นหนังเทพนิยาย สวยตั้งแต่ฉากแรกๆ ตอนเปิดตัวเบลล์ในสวนของบ้านเธอ ตามด้วยบรรยากาศที่อึมครึมแต่ก็ดูสวยและได้อารมณ์ศิลป์ไม่เลวของปราสาทเจ้าชายอสูร ยอมรับว่าฉากสวยๆ ทำให้ดูหนังเพลินขึ้นพอตัวครับ
ดาราจริงๆ ก็แสดงกันดีครับ โดยเฉพาะ André Dussollier ผู้รับบทพ่อของเบลล์ เขาดูเป็นคนดีจริงๆ ฉากที่เขาหลงเข้าไปในปราสาทหนแรกแล้วเอ่ยตะโกนขอกินอาหารด้วยความหิวนั่น ดูน่าเห็นใจทีเดียว
เมื่อดูจบแล้ว ผมยังรู้สึกชอบเรื่องราวในฉบับการ์ตูนของ Disney มากกว่าครับ ไมใช่เพราะผมชอบดูการ์ตูนนะครับ แต่จังหวะหลายๆ อย่างของฉบับนั้นมันเอื้อให้เรารู้สึก “อิน” ไปกับเรื่องราว อย่างเช่นตัวเจ้าชายอสูรที่ดูมีอารมณ์อ่อนไหวจนเราอดเห็นใจในชะตากรรมเขาไม่ได้ หรือตัวเบลล์ที่ดูสดใส ร่าเริง มีน้ำใจ จนเราตกหลุมรักตัวละครนี้แบบเต็มๆ
ทว่าในฉบับนี้ เบลล์เข้มแข็งมากจริงๆ ครับ มากจนไม่มีวาระให้เราเห็นใจเธอ ไม่ได้หมายถึงเธอไม่น่าสงสารนะครับ เพียงแต่เธอแกร่งมาก เด็ดเดี่ยวมาก ใจแข็งมาก จนเรารู้สึกว่า “ไม่ต้องห่วงเธอหรอก เธอเอาอยู่น่า” คือรู้น่ะครับว่าเธอไม่กลัว ไม่เกรง และไม่ฟูมฟายแน่นอน คือต่อให้เจ้าชายอสูรโหดกับเธอแค่ไหน นอกจากไม่กลัวแล้ว เธอยังพร้อมสู้อีกต่างหาก
ทีนี้อารมณ์ผูกพันแบบน่ารักๆ มันเลยไม่ค่อยปรากฏ อย่างในฉบับการ์ตูนนั้นเจ้าชายอสูรร้ายเพราะโดนโลกกระทำ (อันเนื่องมาจากทำตัวเอง) เขาเลยอาละวาดไปเรื่อย ส่วนเบลล์ก็เป็นแค่หญิงสาวตัวเล็กๆ ที่เจ็บเป็น กลัวเป็น แต่พอถึงเวลาเธอก็พร้อมจะยืนหยัด ว่าง่ายๆ คือทั้ง 2 คาแรคเตอร์มีทั้งมุมอ่อนและมุมแข็งผสมกัน ตอนที่ตัวละครหนึ่งแข็ง อีกฝ่ายก็จะอ่อน พออีกฝ่ายอ่อนแอ อีกตัวละครก็จะยืนหยัดให้อีกฝ่ายพักพิง… มันดูน่ารักน่ะครับ และทำให้เชื่อได้ไม่ยากว่า 2 คนจะค่อยๆ ผูกใจเข้าหากัน
สำหรับฉบับหนังอันนี้ ถ้ามองในมุมหนึ่ง ก็มองได้ว่าทั้งอสูรและเบลล์ต่างก็แกร่งในแบบของตนเอง แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็กลายเป็นว่าพวกเขาไม่มีมิติในมุมอ่อนไหวเท่าที่ควร อารมณ์โรแมนซ์สวยๆ เลยไม่มากอย่างที่ควรจะเป็น
ไปๆ มาๆ พ่อของเบลล์นี่แหละครับที่มีมิติครบ ทั้งมุมแกร่ง มุมอ่อน มุมกลัว มุมท้อ เลยไม่น่าแปลกหากตัวละครนี้จะชวนให้จดจำอย่างยิ่ง
แต่ก็นั่นแหละครับ ยังไงตัวหนังก็ถือว่าไม่เลว ภาพสวย ออกแบบฉากได้แฟนตาซีดี เรื่องราวก็ดูได้เรื่อยๆ ไม่ถึงกับน่าเบื่อ เพียงแต่รสชาติมันอาจไม่เร้าอารมณ์คนดูให้อินมากเท่าฉบับการ์ตูนเท่านั้นเองครับ
ลองดูนะครับสำหรับคอหนังแฟนตาซี คุณอาจจะชอบก็ได้ครับ (แต่คงต้องพยายามไม่เอาฉบับการ์ตูนมาเปรียบเทียบนะครับ มันคนละสไตล์กันครับ)
คะแนนความชอบ = 6/10 ครับ
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Daybreakers (2009) วันแวมไพร์ครองโลก
284 0เป็นหนังแวมไพร์ที่ไม่ธรรมดา มาพร้อมไอเดีย แง่คิด และจัดว่ามีความสดพอตัว ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด เหตุในหนังนั้นเกิดในโลกอนาคตครับ เมื่อคนส่วนใหญ่บนโลกกลายเป็นแวมไพร์กันหมด และเมื่อปฏิทินมาถึงปี 2019 ปรากฏว่าเลือดเกิดขาดแคลนเพราะมนุษย์ก็โดนล่าไปเกือบหมด ทำให้ต้องมีการหาทางผลิตเลือดทดแทน และเอ็ดเวิร์ด ดัลตัน (Ethan Hawke) ก็คือหัวหน้าทีมวิจัยที่กำลังค้นคว้าอยู่ แต่แล้วในเวลาต่อมาเขาก็ได้พบกับ ไลโอเนล คอร์แม็ค (Willem Dafoe) มนุษย์ที่มาพร้อมวิธีการแก้พิษแวมไพร์ ซึ่งเป็นทางออกที่ดีครับ เพราะคนจะได้เลิกกินเลือดแล้วกลับไปเป็นคนธรรมดา ไม่ต้องมาฆ่ากันอีกต่อไป เอ็ดเวิร์ดก็เลยตัดสินใจร่วมมือกับเขาและมนุษย์ที่เหลืออยู่ เพื่อช่วยให้มนุษย์กลับมาเป็นมนุษย์ดังเดิม แต่ก็แน่นอนว่าเขาไม่สามารถดำเนินแผนได้ดั่งใจนัก เพราะยังมีแวมไพร์อีกมากที่ไม่อยากกลับไปเป็นคน ประมาณว่าแวมไพร์น่ะมีพลังสารพัด ดีกว่ากลับไปเป็นคนตั้งเยอะ หรือไม่บางคนก็กลายเป็นแวมไพร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งกายและใจไปแล้ว ดังนั้นการถอนพิษแวมไพร์ก็เท่ากับเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสายตาของพวกเขา ด้วยเหตุนี้พวกเอ็ดเวิร์ดเลยต้องเจอกับการไล่ล่าจนได้ อย่างแรกที่เข้าท่ามากๆ ก็คือโทนเรื่องกับการจัดแสงที่นับว่าดีทีเดียว
รีวิว Horns (2014) คนมีเขา เงามัจจุราช
2273 0Horns จะว่าไปก็ดูเพลินดีนะครับ รสชาติมันผสมๆ ระหว่างสยองขวัญ ระทึกขวัญ แล้วก็ตลกร้าย แม้อาจไม่ถึงกับกลมกล่อมไปเสียทั้งหมด แต่หนังก็มี “รสชาติความแปลก” แทรกลงมาให้รู้สึกโอเคกับมันได้อยู่ (หมายถึงถ้าเราชอบรสแปลกๆ นั่นน่ะนะครับ) ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Paul Blart: Mall Cop 2 (2015) พอล บลาร์ท ยอดรปภ. หงอไม่เป็น 2
2717 0ภาคแรกผมชอบครับ มันคือ Die Hard เวอร์ชั่นฮากลมกลิ้งที่ครบเครื่องทั้งความตลกและความลุ้น ส่วนภาคต่ออย่าง Paul Blart: Mall Cop 2 ก็ถือว่าผลออกมาตามที่คาดไว้ นั่นคือดูเพลินเรื่อยๆ แต่ไม่จับใจเท่าภาคแรก ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด