รีวิว The Man from U.N.C.L.E. (2015) เดอะ แมน ฟรอม อั.ง.เ.คิ.ล. คู่ดุไร้ปรานี

The Man from U.N.C.L.E. รีเมคมาจากซีรี่ส์แนวสายลับสุดฮิตเมื่อยุค 60 (ร่วมรุ่นกับ Mission: Impossible นั่นแหละครับ) โดยจริงๆ โปรเจคท์นี้ร่ำๆ ว่าจะทำมาเป็นสิบปีแล้วครับ แต่หลายๆ อย่างก็ไม่ลงตัวสักที
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
แต่ในที่สุด มันก็ออกมาเป็นหนังใหญ่จนได้
พล็อตก็มาในสไตล์หนังสายลับดั้งเดิมครับ เรื่องของ CIA นโปเลียน โซโล (Henry Cavill) ที่ต้องมาร่วมงานกับอิลย่า เคอร์ยาคิน (Armie Hammer) KGB จากรัสเซียในภารกิจกู้โลกให้พ้นจากภัยนิวเคลียร์
หนังจัดว่าโอเคในแง่ของหนังสายลับย้อนยุคครับ พวกฉาก เพลง ดนตรี เครื่องแต่งกาย และอารมณ์ของหนังมันได้กลิ่นยุค 60 มากๆ โดยเฉพาะดนตรีนี่คัดมาได้แซ่บทีเดียว หรือเครื่องแต่งกายก็ฉูดฉาดได้ใจ เรียกว่าหนังทำออกมาในสไตล์ Retro ได้เข้าท่าเลยล่ะครับ
ซึ่งอันนี้ก็ไม่แปลกใจ เพราะคนกำกับคือ Guy Ritchie ที่เคยสร้างภาพอังกฤษยุคเก่าไว้ได้อย่างดีใน Sherlock Holmes และสำหรับหนนี้ ในแง่อารมณ์และบรรยากาศถือว่าพาเราย้อนไปสู่โลกแห่งยุค 60 ได้สำเร็จครับ
แล้วในแง่เนื้อหา… อันนี้คงต้องว่าตามจริงครับว่ามันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เนื้อเรื่องพอเดาได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมว่าความสนุกของหนังไม่ได้อยู่ที่เรื่องหรือแอ็กชัน (ที่ก็ไม่ได้มันส์หรืออลังอะไรขนาดนั้น) แต่มันอยู่ตรงการแสดงลื่นๆ และการกวนบาทาซึ่งกันและกันของ Cavill ที่ดูเก๊กและเพลย์บอยเล็กๆ ตามแบบอเมริกัน ส่วน Hammer ก็ดูเข้ม แกร่ง ตามสไตล์คนแดงเดือดหลังม่านเหล็ก
แต่รายที่ได้ใจผมไปมากกว่าที่คาดคือ Alicia Vikander ในบท เกบี้ สาวสวยที่โดนนโปเลียนลากมาร่วมภารกิจด้วย กับ Elizabeth Debicki ในบทวิคตอเรีย ที่ใบหน้าของเธอมันใช่สาวยุค 60 แบบสุดๆ (กลิ่นยุค 60 ชัดขึ้นมากมายก็เพราะเธอนี่แหละครับ 555) ยอมรับเลยว่า 2 สาวเล่นได้น่าจดจำมากอยู่
แต่ก็นั่นแหละครับ หากดูกันในแง่ความสนุกเชิงเนื้อหาหรือแอ็กชันแล้ว ก็ถือว่าหนังอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นมากมาย หรือบางมุขก็ชวนให้นึกถึง Sherlock Holmes (โดยเฉพาะมุขแบบ “มันคือแผนตลบหลัง!” อะไรแบบนี้เป็นต้น)
ครับ โดยรวมๆ แล้วหนังก็มีทั้งส่วนที่ “โดน” และ “ยังโดนได้อีก” สำหรับผมน่ะนะครับ พวกบรรยากาศความเป็นหนังสายลับช่วงสงครามเย็นถือว่าทำได้ดี ดนตรีและเพลงก็น่าจดจำ ดาราก็ถือว่าเล่นได้น่าพอใจ เพียงแต่ลูกเล่นอาจยังไม่มาก เนื้อหาอาจยังไม่เข้มขนาดนั้น และแอ็กชันก็ยังสะใจได้อีกพอสมควร
ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่าจะมีภาคต่อไหม เพราะเปิดตัว 3 วันแรกทำไป $13 ล้านเท่านั้นเอง (น้อยกว่า Fantastic Four อีกนะนั่น) แต่ในใจลึกๆ อยากให้ Guy Ritchie ไปทำ Sherlock Holmes 3 ต่อมากกว่าครับ
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว The Taking of Tiger Mountain (2014) ยุทธการยึดผาพยัคฆ์
2360 0อีกหนึ่งงานกำกับของฉีเคอะ ผู้กำกับที่ถือเป็นแถวหน้าของฮ่องกงมานานพอๆ กับ John Woo น่ะครับ ซึ่งผลงานของลุงเขาก็มีขึ้นมีลงบ้างตามจังหวะ แต่เรื่องที่ยังอมตะประเภทดูแล้วไม่เบื่อของพี่แกก็ต้องยกให้ เดชคัมภีร์เทวดา (โดยเฉพาะภาค 2) และหวงเฟยหง (โดยเฉพาะภาค 2 อีกเหมือนกัน) ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว A Song for Christmas (2017)
4007 1ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด หนังคริสต์มาสอบอุ่นๆ อีกเรื่องที่ดูแล้วเพลินกว่าที่คิดครับ ยอมรับว่าตอนแรกไม่คาดหวังอะไรเพราะดาราก็ไม่ได้ดึงดูดขนาดนั้น แต่ครั้นได้ดูแล้วถือว่าเวิร์กและให้ความรู้สึก Feel Good ได้มากกว่าที่คิด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Standoff (2016) ล่าไม่ให้รอด
1795 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ถ้าว่ากันโดยพล็อตแล้วถือว่าน่าสนใจนะครับ สไตล์เรื่องมันออกแนวแอ็กชันแบบระทึกขวัญในสถานที่จำกัด ตัวละครก็ไม่เยอะ มาคอยหักเหลี่ยมหักเล่ห์กัน โดยฝ่ายหนึ่งเป็นคนดี (แต่มีอดีต) กับอีกฝ่ายหนึ่งที่มาเพื่อล่าและฆ่าโดยเฉพาะ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด