Like This Video 2042

Added by พี่หมื่น 12/04/2015

จุดที่น่าสนใจที่สุดของ The Butler คือการเป็นหนังรวมดาวดารายอดฝีมือไว้ อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะ Forest Whitaker, Oprah Winfrey, John Cusack, Clarence Williams III, Terrence Howard, Cuba Gooding Jr., Liev Schreiber, Alan Rickman, Jane Fonda และ Robin Williams ผู้ล่วงลับ

ตัวหนังว่าด้วยเซซิล เกนส์ (Whitaker) ชายผิวดำคนหนึ่งที่ได้ทำหน้าที่พ่อบ้านประจำทำเนียบขาว โดยเขาได้ดูแลรับใช้ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐมาหลายสมัยครับ หลายครั้งก็ต้องมาเป็นสักขีพยานยามท่าน ปธน. ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ของประเทศ

ขณะเดียวกันชีวิตส่วนตัวของเซซิลเองก็มีหลายปัญหาให้ฝ่าฟัน ซึ่งหนังก็เล่าเรื่องราวตั้งแต่วัยเด็กที่เขาโดนคนขาวกดขี่ เรื่อยมาจนถึงวัยชราที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน

อย่างที่บอกครับ ของดีของหนังคือการได้เห็นดาราระดับตำนานมารวมตัวกัน โชว์ฝีมือกันคนละนิดคนละหน่อย ด้านเนื้อเรื่องก็ถือว่าดูได้เรื่อยๆ คือมันไม่ได้เข้มข้นมากมายนะครับ เหมือนหนังพยายามจับเรื่องมาเล่าให้ครบไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัวของเซซิลแล้วก็เหตุการณ์สมัยต่างๆ ในทำเนียบขาว แต่ด้วยความที่เรื่องให้เล่ามันเยอะ แต่หนังมีเวลาในการเล่าจำกัด ผลที่ออกมาเลยอยู่ในระดับ “ยังเข้มข้นได้อีก” เพราะการสร้างอารมณ์หรือสร้างความผูกพันกับตัวละครนั้น นอกจากตัวเซซิลและภรรยา (Winfrey) รายอื่นๆ ก็ถือว่ามาให้เห็นหน้า มาแสดงพลังผ่านการแสดงเล็กๆ แล้วก็ผ่านไป

ดูแล้วชวนให้นึกถึง Forrest Gump น่ะครับ จริงๆ สไตล์คล้ายกันเลยนะฮะ ตัวเอกที่เดินเรื่องผ่านยุคสมัยต่างๆ ของอเมริกา แต่ในแง่ความประทับใจหรือความโดนอาจต่างกันอยู่พอสมควร ส่วนหนึ่งคงเพราะการเลือกจะเล่าเรื่องที่ Gump โฟกัสประเด็นชัดกว่า เช่นถ้าจะเล่นเรื่องไหนก็เล่าโฟกัสชัดๆ เป็นฉากๆ เป็นช่วงๆ ไป ผลที่ออกมาเลยพอดีแม้จะมีเรื่องราวให้เล่าหลายหลายก็ตาม

ส่วน The Butler นั้นการเล่าเรื่องอาจยังไม่จับใจแบบเต็มร้อย แต่ก็ถือว่าไม่น้อยกว่า 70 แต่หนังอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบหนังดราม่าแบบเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ โดยมีประวัติศาสตร์เป็นฉากหลังครับ แต่ถ้าชอบล่ะก็ เรื่องนี้นับว่าควรค่าแก่การดูอยู่ครับ

เกร็ดน่าสนใจของหนังคือ หนังได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตของ Eugene Allen พ่อบ้านตัวจริงที่ทำงานในทำเนียบขาวถึง 34 ปีครับ
คะแนนความชอบ 7/10 ครับ
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน