Like This Video 2221

Added by bknews 28/08/2015

20th Century เผยโฉมแรกของพระเอกนักฆ่า ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ ที่หลุดออกมาจากเกมสุดฮิตอย่าง Assassin’s Creed มาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม

ใครที่เป็นคอเกมส์นักฆ่าจากศตวรรษที่ 15 อย่าง Assassin’s Creed แล้วล่ะก็ เตรียมวางมือจะจอยสติ๊กกันได้เลย เพราะคราวนี้คุณจะทำได้เพียงแค่นั่งมองตัวละครเคยบังคับอยู่เท่านั้น เมื่อ 20th Century ได้หยิบเกมสุดฮิตตัวนี้มาดัดแปลงเป็นหนังฟอร์มยักษ์ โดยเน้นการเล่าเรื่องราวใหม่ทั้งหมด ภายใต้ฉากหลังที่ผู้เล่นเกมรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2015 เฟซบุ๊ก 20th Century ได้เปิดเผยโฉมแรกของพระเอก ไมเคล ฟาสเบนเดอร์ (Michael Fassbender) จากเรื่อง Assassin’s Creed ที่เตรียมเข้าฉายในช่วงปลายปี 2016 ซึ่งครั้งนี้เขารับบทเป็น คัลลั่ม ลินช์ คาแรคเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่เพื่อหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ

โดยเนื้อหาจากต้นฉบับในวิดีโอเกมชุด Assassin’s Creed จะเป็นการเล่าเรื่องของตัวละครที่มีอดีตและปัจจุบันที่ถูกเชื่อมโยงถึงกันด้วย The Animus ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถเจาะเข้าไปได้ถึงระดับดีเอ็นเอ และเข้าถึงความทรงจำของผู้ใช้ได้ ซึ่งเรามักจะเห็นตัวละครในเกมใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้เพื่อการค้นหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นสาเหตุของความขัดแย้งระหว่างเหล่านักฆ่ากับนักรบ และในเวอร์ชั่นหนังจะหยิบเอาอดีตซึ่งเป็นยุคแห่งการไต่สวนศรัทธาของสเปนมาเล่าคู่กับยุคปัจจุบัน อีกทั้งจะขยายความประเด็นที่ไม่ถูกพูดถึงในเกมมาก่อนอีกด้วย

ในครั้งนี้ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ จะต้องรับบทบาทเป็น ไมเคิล ลินช์ นักโทษประหารที่ตกเป็นตัวประกันในสงครามระหว่างนักฆ่ากับนักรบ โดยก่อนที่เขาจะถูกนำไปทดลองโดย โจเซฟ นักวิทยาศาสตร์สุดร้ายของฝ่ายตรงข้าม ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก ลาล่า นักฆ่าสาวในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งนำไปสู่เรื่องราวของนักฆ่านามว่า อกิลลาร์ เดอ อกาโรโรโบ้ ที่เป็นอดีตของเขาในช่วงศตวรรษที่ 15 และไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นที่มีตัวตนในอดีต ตัวละครอื่น ๆ อย่าง โทมัส เดอ ทอร์เควมาด้า หรือตัวร้ายอย่าง อลัน ริคคาน ก็จะปรากฏตัวในเรื่องราวภาคอดีตด้วยเช่นกัน

งานนี้ได้ผู้กำกับฝีมือดี จัสติน เคอร์เซล (Justin Kurzel) เข้ามาดูแลโปรเจคท์ Assassin’s Creed ซึ่งจะมีคิวเข้าฉายในอเมริกาวันที่ 21 ธันวาคม 2016 พร้อมด้วยเหล่านักแสดงอีกมากมาย ได้แก่ มารียง กอตียาร์ (Marion Cotillard), ไมเคิล เคนเนธ วิลเลียมส์ (Michael Kenneth Williams) และแอเรียน ลาเบด (Ariane Labed)