The Hobbit: The Battle of the Five Armies เป็นภาคที่ยังดูได้เพลินๆ เป็นตอนสรุปที่จบเรื่องได้ไม่เลว เพียงแต่ความเข้มข้นหรือความลงตัวอาจน้อยกว่า 2 ภาคที่แล้วอยู่พอสมควร

ภาคนี้จัดเต็มในส่วนของแอ็กชันครับ เพราะการสู้รบครั้งสำคัญมาถึงแล้ว ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เพราะธอริน (Richard Armitage) เปลี่ยนไปหลังได้ครอบครองทรัพย์สมบัติแห่งเอเรบอร์แล้ว และเขาก็ไม่คิดจะแบ่งมันให้กับใคร แล้วนั่นล่ะครับที่นำไปสู่ศึกรบชิงเอเรบอร์ระหว่างเอลฟ์ คนแคระ และพวกออร์ค

ถ้าพูดถึงฉากรบพุ่งแล้ว ถือว่าทำได้ดีครับ แง่ Effect นี่เนี๊ยบอยู่แล้วล่ะครับ ในแง่ความยิ่งใหญ่ก็จัดว่าอลังการสมกับเป็นการปิดตำนานฮอบบิท

แต่ถ้าพูดถึงเนื้อหาแล้ว ภาคนี้เข้มข้นน้อยกว่าภาค 2 ที่ภาคนั้นมันมีปมน่าสนใจ ลีลาการเล่าเรื่องมันยังมีประเด็นให้เล่นหลากหลาย หรือความน่าติดตามมันก็ยังเยอะอยู่ ในขณะที่ภาคนี้ปมไม่มีอะไรแล้วครับ หลักๆ คือรบสู้กัน รอดูว่าใครจะอยู่และใครจะตายบ้าง

และส่วนที่พร่องปริมาณลงไปพอตัวคือแง่มุมมิติตัวละครที่ไม่มากดังคาด แม้ภาคนี้จะเล่นกับความโลภของธอริน, ความเด็ดเดี่ยวรู้ผิดชอบชั่วดีของบิลโบ (Martin Freeman), ปมรักของเอลฟ์สาวธอเรียล (Evangeline Lilly) และทิฐิอันเข้มข้นของราชันย์ธรันดูอิล (Lee Pace) แต่การถ่ายทอดประเด็นพวกนี้กลับเป็นไปอย่างเบาบาง และหลายๆ ปมก็ถูกสรุปจบลงแบบง่ายเกินคาด

อันนี้แอบเสียดายเหมือนกันครับ เพราะจริงๆ หลายปมมันขับเน้นให้เข้มข้นได้ กระตุ้นให้คนดูอินได้ ว่าง่ายๆ คือหนังสามารถเล่นอะไรได้มากกว่าเพียงขายฉากสงคราม

ก็เข้าใจครับว่าในแง่เนื้อหาแล้ว มิตรภาพระหว่างบิลโบกับธอริน อาจไม่แน่นไม่หนักเท่าโฟรโดกับแซม แต่จริงๆ ก็สามารถปรุงให้มันเข้มข้นสะเทือนใจมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ได้

แต่กระนั้น The Hobbit ภาคจบก็ยังคุ้มค่าน่าดูอยู่ครับ ในแง่ความอลังและฉากสงครามผสมแฟนตาซี ถือว่าน่าพอใจ เพียงแต่ถ้าเพิ่มความหนักเรื่องดราม่าหรือปมตัวละครลงไปอีกนิด หนังน่าจะเด็ดขึ้นอีกเยอะ

และสารภาพว่าในตอนจบของเรื่องนั้น ผมรู้สึกว่าผมยังไม่อิ่มน่ะครับ รู้สึกว่ามันจบเร็วและง่ายไปนิด คือจริงๆ แอบคาดหวังว่าตอนจบจะให้อารมณ์ประมาณว่าบิลโบกลับมาบ้าน บ้านโล่งๆ หลังเดิมๆ ที่เงียบสงบ หลังจากผ่านอะไรมามากมาย อาจจะให้มันดูเหงาก็ได้ หรือยังไงก็ได้ให้เราสัมผัสว่าบิลโบกลับมาพร้อมบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดกาล… สงสัยคิดถึงฉากจบของ Lord มากไปแฮะเรา เพราะอันนั้นมันอิ่มจริง อะไรจริง โหยหาจริง และมันได้อารมณ์ประมาณว่าตัวละครอย่างโฟรโด แซม เมอร์รี่ และพิพพินเป็นคนละคนกับฉากแรกๆ… มันมีความหมายน่ะครับ

แต่ก็เอาเถอะ หนังออกมาดีน่ะ อะไรๆ อาจพร่องบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าสนุกอยู่ แต่ถ้าถามว่าผมชอบฉากไหนที่สุดล่ะก็ ขอตอบเลยครับว่าชอบซีนที่แกนดาล์ฟ (Ian McKellen) ถูกช่วยจากหอไสยเวทย์โดลกุลดัวร์ ฉากนั้นมันเท่ห์มากครับ ตัวละครที่โผล่ไปนั่นเวลาฟันดาบที ร่ายเวทย์ที มันได้ใจโคตรๆ และมันดูยิ่งใหญ่ดีด้วย (ทั้งๆ ที่ที่เกิดเหตุมันแค่ยอดหอคอยเท่านั้นเอง)

… รู้ไหมครับ พอดูหนังชุดนี้จบ มันทำให้อยากหยิบ Lord ขึ้นมาดูต่อทันทีเลย

จริงครับที่หนังชุดนี้อาจไม่ได้สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ก็ถือว่าออกมาดี เป็นหนึ่งในหนังแถวหน้าสำหรับแนวแฟนตาซี และเป็นผลงานที่ Peter Jackson ต้องภูมิใจอย่างยิ่ง เพราะเขาได้ถ่ายทอดสุดยอดวรรณกรรมแห่งยุคมาสู่สุดยอดภาพยนตร์ชุดแนวแฟนตาซีที่น่าจดจำ อีกทั้งยังบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างสอดประสานกัน

สำหรับผมแล้ว ในหนังชุด Hobbit นี้ผมชอบภาค 2 ที่สุดครับ ถัดมาก็ภาคแรก และปิดท้ายด้วยภาค 3

ชอบมาก-ชอบน้อยต่างกันไป แต่ยังไงๆ ก็อยู่ในข่ายชอบนั่นแหละครับ
คะแนนความชอบ 7.5/10 ครับ
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน