https://www.youtube.com/watch?v=8hEVObAxXMg

เป็นหนังที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกหลากหลายหลังดูจบครับ อย่างแรกคือ องค์รวมของหนังนี่ผมออกแนวเรื่อยๆ หลายอย่างมันมีแนวทางที่ดี แต่ก็ไปได้ไม่สุด แล้วพอมันไม่สุดๆ อยู่เรื่อยๆ ก็เลยทำให้ความเบื่อเริ่มถามหาเมื่อผ่านไปครึ่งเรื่อง

อย่างที่ 2 คือ แม้หนังจะไม่ได้เด็ดอะไรมาก แต่เอาเข้าจริงแนวทางมันโอเคครับ อย่างพล็อตนี่จริงๆ เวิร์กนะ ตอนเฉลยปมนี่ก็รู้สึกโอเคอยู่เหมือนกัน เพราะถือว่าปมหลักเป็นอะไรที่เวิร์กดีเลยทีเดียว

แต่แล้ว หนังเรื่องนี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของหนังที่มีพล็อตน่าสนใจ แต่การเล่าเรื่องไม่มีแรงดึงดูดพอ การสร้างบรรยากาศความระทึกหรือความหลอนก็ไม่ได้มีชั้นเชิงหรือความสดใหม่อะไร จนในที่สุด หนังเลยออกมาในระดับธรรมดา

หนังว่าด้วย แมรี่ (Naomi Watts) นักจิตวิทยาเด็กที่สูญเสียสามีไป ในขณะที่ลูกของเธอต้องมาเป็นอัมพาต ซึ่งเธอก็ต้องทำมาหาเลี้ยงครอบครัวและดูแลลูกตามประสาคุณแม่คนหนึ่ง

แล้วเธอก็ได้พบกับ ทอม (Jacob Tremblay) เด็กที่เธอตั้งใจว่าจะช่วยเหลือเขาให้ได้ในฐานะนักจิตวิทยา แต่อยู่มาวันหนึ่งทอมเกิดหายไปครับ และขณะเดียวกันในบ้านของเธอก็มีอะไรแปลกๆ ไม่ว่าจะเสียงประหลาด หรือบรรยากาศเสมือนหนึ่งว่า “มีใคร หรืออะไรบางอย่างอยู่ในบ้านกับเธอด้วย”

แน่นอนครับว่าแมรี่ก็ต้องหาคำตอบว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือว่าบ้านหลังนี้จะมีอะไรที่ผิดปกติ หรือมันจะมีอันตรายอื่นใดที่จะมาคุกคามเธอกับลูกอีกไหม

อย่างที่บอกครับว่าผมชอบจุดเฉลยนะ ผมว่าในความคิดของคนเขียนบทคงรู้สึกว่ามันเวิร์กประมาณหนึ่งเลยล่ะสำหรับจุดหักมุมอะไรแบบนี้ แต่น่าเสียดายครับที่องค์ประกอบอื่นๆ ระหว่างทางมันไม่มีพลังพอ ดังนั้นต่อให้จุดหักมุมจะโอเคแค่ไหน มันก็ช่วยหนังทั้งเรื่องไว้ไม่ได้

และที่น่าเสียดายกว่าคือ พอองค์ประกอบอื่นๆอย่าง จังหวะการวางปม, การวางทิศทางความหลอนของเหตุการณ์ มันไม่ได้สนับสนุนหรือขับเน้นให้จุดหักมุมดูเด่น และบางอันมันยังไปลดทอนความน่าสนใจของจุดหักมุมที่ว่าด้วย

คนที่ผมเห็นใจที่สุดคือ Naomi Watts ครับ เธอคือดาราที่ชิงออสการ์มา 2 ครั้งและบอกได้เลยว่าเธอเป็นดาราหญิงที่เปี่ยมฝีมือมากๆ คนหนึ่งของวงการ ซึ่งการแสดงในเรื่องผมก็ว่าเธอยังแสดงได้ดีนั่นแหละครับ เธอยังเต็มที่กับบทบาทอยู่เหมือนทุกเรื่อง และจะว่าไปแล้วเรื่องนี้เธอต้องใช้พลังเยอะอยู่ เพราะเธอแทบจะเล่นอยู่คนเดียวตลอดเรื่องก็ว่าได้

แต่ตัวหนังมันไม่สุดน่ะครับ ฉากชวนสะดุ้งส่วนใหญ่ก็ออกแนวตุ้งแช่มากกว่าจะบิ้วให้คนดูเกิดความหลอนหรือเกิดความสงสัย การทิ้งปมก็ไม่ได้ชวนติดตามอะไร เช่นเดียวกับงานภาพต่างๆ ที่ออกมาธรรมดา จะบอกว่าออกมาเป็นหนังเกรดบีก็ไม่ได้เพราะโทนและองค์ประกอบมันมาแนวเกรดเอน่ะครับ แต่มันเป็นเกรดเอที่ไม่มีอะไรเด่นเลยจริงๆ นอกจากการแสดงของ Watts

หนังกำกับโดย Farren Blackburn ที่ได้กำกับบางตอนของซีรี่ส์อย่าง Doctor Who, Luther, The Musketeers และล่าสุดเขาคือคนกำกับตอนสุดท้ายของ The Defenders ปี 1 ซึ่งหากดูจากผลงานเก่าๆ ของเขาแล้ว ก็คงต้องบอกว่า Shut In เรื่องนี้ ยังไม่ใช่งานที่น่าจดจำของเขาครับ

สรุปแล้วผมชอบจุดหักมุมครับ แต่การนำเสนอ การเล่าเรื่อง การวางปมหรือการหลอกคนดูมันยังดีได้อีก เอาเป็นว่าใครชอบหนังแนวลึกลับหากจะลองดูก็ได้ครับผม หรือหากใครเป็นแฟน Watts ก็ดูได้เช่นกัน เพราะแม้หนังจะไม่โอเคยังไงก็ตาม แต่การแสดงของ Watts ก็ยังน่าพอใจอยู่ดีครับ
คะแนนความชอบ 5/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน