รีวิว Blair Witch (2016) แบลร์วิทช์ ตำนานผีดุ

รีวิว Blair Witch (2016) แบลร์วิทช์ ตำนานผีดุ

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

The Blair Witch Project เป็นหนังประเภท Found Footage เรื่องแรกในความทรงจำของผมครับ ณ ตอนที่ดูนั้นจำได้ว่ามันสด มันใหม่ มันหลอน และโดนคนจำนวนมากบ่นว่า “นี่มันหนังบ้าอะไรของมันเนี่ย”

แต่สำหรับผมนั้น ผมชอบครับ ไปนั่งกินบรรยากาศหลอนๆ ในโรง เป็นหนังทีได้อารมณ์น่ากลัวดี พอเอามาดูต่อที่บ้านก็ยังอร่อยกับมันนะ ครั้นมาถึงภาค 2 ก็ถือว่าพอดูได้ครับ แม้โดยรวมออกแนวเฉยๆ ก็เถอะ (ผมดูรอบเดียว และไม่ได้ดูอีกเลยครับสำหรับภาค 2)

มานับนิ้วดูดีๆ หนังชุดนี้ก็ผ่านมา 18 ปีแล้วครับ จริงๆ อาจช้าไปมากเลยสำหรับการทำภาคต่อ (รู้สึกว่าปี 2016 จะเป็นปีแห่งหนังภาคต่อข้ามทศวรรษจริงๆ นะนี่) แต่พอมีทำออกมา ก็พร้อมจัดไปครับ

ภาคนี้เป็นเรื่องของเจมส์ (James Allen McCune) น้องชายของเฮเธอร์ หนึ่งในคนที่หายไปในภาคแรกนั่นเองครับ เขาเกิดไปเห็นคลิปที่มีร่องรอยของพี่เขาใน Youtube ก็เลยตั้งใจออกเดินทางไปป่าแบล็คฮิลล์ เพื่อตามหาพี่สาวของเขา โดยมีเพื่อนๆ ของเจมส์ร่วมเดินทางกันไปด้วย


สิ่งแรกที่ผมคิดในใจเลยก็คือ ผ่านมา 10 กว่าปีถึงจะเดินทางไปตามหาเนี่ยนะ (555) ก็เข้าใจล่ะครับว่ามันคือการผูกพล็อตให้เชื่อมกับภาคแรก แต่เอาแค่จุดนี้ก็ดูไม่น่าเชื่อเท่าไร คือจริงๆ ถ้าจะกำหนดพล็อตให้เป็นหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งไปลองของก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ ขอให้ทำออกมาสนุกก็น่าจะพอแล้ว

ครั้นพอได้ดู ยอมรับเลยว่าหนึ่งชั่วโมงแรกค่อนข้างนิ่งครับ ความน่าติดตามมันไม่ได้เยอะขนาดนั้น หรือความหลอนมันก็ไม่ได้มากนะ แม้หลายอย่างจะยกมาจากภาคแรกก็ตาม เช่น เสียงแปลกๆ ตอนกลางคืนที่นอกเต้นท์ หรือหุ่นไม้แปลกๆ ที่ถูกเอามาแขวนรอบๆ เต้นท์ ทั้งหมดนี่คือการเอาของจากภาคแรกมาใส่ในภาคนี้ แต่ความขลังหรือความน่ากลัวมันไม่มากเท่าของเก่า

ผมว่าภาคแรกมันเวิร์กเพราะหลายอย่างดูสมจริง ตัวละครในเรื่องก็ดูพอดีๆ ไม่ได้เว่อร์วังหรือดูเป็นนักแสดงมากจนเกินไป แต่กับเรื่องนี้ ตัวละครแต่ละคนดูจะ “แสดง” อยู่ครับ ไม่ได้ดูดิบแบบภาคแรกที่ให้อารมณ์เหมือนจริงกว่ากันเยอะ

การเดินเรื่องชั่วโมงแรกไม่มีจุดที่น่าติดตามแบบเต็มๆ อาจมีการเอาตำนานแม่มดแบลร์มาเล่าบ้าง แต่ส่วนมากจะใช้เวลาไปกับกิจวัตรของเหล่าตัวละครในเรื่องที่ก็ไม่ได้น่าสนใจอะไร พอเข้าไปในป่าเราก็จะได้เห็นพฤติกรรมกวนๆ, อารมณ์ร้อน หรือไม่ก็ขาดสติของเหล่าตัวละครเป็นหลัก


อดคิดไม่ได้ว่าผู้กำกับตั้งใจจะวิพากษ์คนรุ่นใหม่ผ่านหนังเรื่องนี้หรือเปล่า ประมาณว่าทำอะไรก็ไม่ค่อยคิด ทำอะไรเอาแต่ใจ ใจร้อน ไม่ค่อยใช้สติ มักพึ่งพาแต่เทคโนโลยีมากกว่าจะพึ่งพาตนเอง ฯลฯ เพราะตลอดทั้งเรื่อง เราจะได้เห็นตัวละครหนุ่มสาวแสดงพฤติกรรมในแนวนี้ตลอด

และอาจเพราะพฤติกรรมเหล่านี้ดูนำรำคาญในบางวาระ ก็เลยพลอยทำให้รู้สึกเรื่อยๆ กับหนังน่ะครับ ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าติดตามแบบเต็มที่สักเท่าไร ต้องรอจนประมาณครึ่งชั่วโมงสุดท้ายน่ะครับ ช่วงนั้นความตื่นเต้นและระทึกก็ค่อยไหลมาเยอะหน่อย

แต่ก็ติดอยู่พอสมควรตรงที่กล้องเหวี่ยงมาก ส่ายมาก เรียกว่าหนักกว่า Hardcore Henry อีกครับ ดังนั้นใครแพ้หนังกล้องเหวี่ยงก็บอกเลยว่าท่านน่าจะเวียนหัวกับหนังเรื่องนี้แน่ๆ ส่ายและเขย่าไปมาจนผมแอบพักสายตาเป็นระยะ (บ่งบอกถึงความแก่ครับ 555)

จริงๆ หนังมีปมแล้วก็มีรายละเอียดหลายอย่างเพิ่มขึ้นมา ทำให้อาถรรพ์แม่มดดูจะมีอะไรน่าสนใจมากขึ้น แต่จังหวะการเล่าที่ไม่ได้เปิดโอกาสให้เราเข้าใจอะไรๆ มากนัก (ช่วงต้นไม่ค่อยมีอะไรครับ มามีอะไรหนักๆ ตอนท้าย แต่ตอนท้ายที่ว่าก็เคลื่อนกล้องฉับไวจนมึนหัวได้ง่ายๆ ซะอีก เลยทำให้ไม่อินหรือไม่มีเวลาให้คิดเกี่ยวกับปมบางอย่างที่หนังพยายามอธิบาย, ทิ้งให้คิด หรือเฉลย)


สรุปว่าแฟนๆ แม่มดแบลร์ลองตามมาดูก็ได้ครับ ท่านอาจจะชอบกันนะ หรือไม่ก็อาจต้องมีการดูซ้ำเพื่อเก็บรายละเอียดอีกที อาจจะทำให้มันสนุกขึ้นก็ได้ แต่ใครแพ้หนังกล้องส่ายก็บอกไว้ก่อนเลยว่าโอกาสมึนหัวมีสูงมากในฉากท้ายๆ

ส่วนผมรู้สึกเรื่อยๆ ครับ ชั่วโมงแรกมันเรื่อยไปหน่อยไม่ได้มีอะไรให้ชวนติดตามมากนัก ส่วนช่วงท้ายจริงๆ น่าสนใจครับ ถ้ามองในแง่อารมณ์มันก็ชวนสับสนดี ทุกอย่างดูเร็วและไวจนไม่ทั้งตั้งตัว แต่ถ้าวัดกันด้วยอารมณ์หลอนแล้ว ผมว่าช้าๆ เย็นๆ แบบภาคแรกน่ะหลอนลึกกว่ากันเยอะ
คะแนนความชอบ 5.5/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิว American Made (2017) อเมริกัน เมด

1992 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด จู่ๆ ก็นึกขึ้นมาว่าถ้าหนังเรื่องนี้กำกับโดย Martin Scorsese หนังมันคงจะออกมาแน่นๆ แสบๆ เดินเรื่องด่วนๆ เต็มไปด้วยข้อมูลและลูกเล่นที่น่าสนใจ รสชาติก็อาจจะคล้ายกับที่หนังเป็น แต่เพิ่มดีกรีหวือหวาเข้ามาอีกหน่อยนึง ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว Dunkirk (2017) ดันเคิร์ก (ตอนที่ 2)

2034 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ซึ่งตลอดตั้งแต่ต้นจนจบนั้น ผมก็จะรู้สึกประมาณนี้แหละ ถามว่าอินหรือจมไปกับเรื่องราวไหม ผมว่าผมไม่อินขนาดนั้นนะ จะออกแนวอินเป็นฉากๆ มากกว่า แต่พอถึงคราวอินมันก็อินจนอึน อินจนอิ่มจุกไปเลยเหมือนกัน (อย่างฉากหามคนข้ามไม้นั่น ผมเกือบจะร้อง “เฮ้” ตามเขาไปด้วยเลยล่ะ) ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิวซีรี่ส์ Under the Dome Season 1 (2013 – 2014)

1670 0

เรื่องนี้ก็สร้างจากหนังสือของ Stephen King เหมือนกันครับสำหรับ Under the Dome โดยปี 1 คือการเปิดเรื่องครับ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด จริงๆ พล็อตตั้งต้นนับว่าน่าสนใจมาก ว่าด้วยพลังลึกลับบางอย่างที่จู่ๆ ก็ครอบลงมาที่เมืองเล็กๆ ในเชสเตอร์ส มิลล์ ทำให้เมืองถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีใครออกไปได้ คนนอกก็เข้ามาไม่ได้ กระทั่งเสียงก็ยังข้ามเจ้าม่านพลังลึกลับนี่ไม่ได้ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด